ท้องฟ้าเมืองเชียงราย ถูกปกคลมไปด้วยหมอกควันไฟ วัดค่ามวลอากาศพุ่งสูงกว่า150ไมโครกรัม เกินค่ามาตรฐาน รวมทั้งที่ชายแดนแม่สาย และพื้นที่อื่นๆที่พบจุดความร้อนหรือ‘ฮอตสปอต’เพิ่ม สาเหตุมาจากจุดไฟเผาป่า เผาวัชพืช เศษขยะ...
เมื่อวันที่ 9มี.ค.2558 ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศว่า มีท้องฟ้าหลัว เนื่องจากถูกปกคลุมด้วยหมอกควันไฟ ในทั้ง 18 อำเภอเกษตรกรมีการจุดไฟเผาหญ้า วัชพืช บางส่วนบุกรุกแผ้วถางป่าทั้งวันทั้งคืนเพื่อเตรียมลงพืชไร่ ไม่สนใจการรณรงค์ห้ามการเผาของทางราชการ ทำให้ที่ผ่านมา 2 วัน บรรยากาศของ อ.เมืองเชียงรายถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนา กลิ่นควันไฟเศษเถ้าถ่านปลิวว่อน แสบตาแสบจมูก ทัศนวิสัยการมองเห็นประมาณ 3 กม. ค่ามวลอากาศเกินมาตรฐาน อยู่ที่ 152ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันมาเป็นวันที่3แล้ว
ส่วนที่ อ.แม่สาย มีการจุดไฟเผาวัชพืชและขยะ ทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้หมอกควันไฟครอบคลุมพื้นที่ชายแดน เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ล่าสุดวัดค่ามวลอากาศได้ 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานเช่นกัน
...
นายประจญ ปรัชญ์สกุล รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ภาวะหมอกควันที่มีปริมาณเกินค่ามาตรฐานในขณะนี้ มาจากการเคลื่อนย้ายของมวลหมอกควันจากจังหวัดข้างเคียง และจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่จ.เชียงรายมากขึ้น และมีปริมาณฮอตสปอตเกิดมากขึ้นกว่า 60 จุด ในพื้นที่ อ.แม่สรวย และ อ.เวียงป่าเป้า ล่าสุดเกิดฮอตสปอตใหม่ขึ้นในเขต อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.เทิง ทำให้ปริมาณหมอกควันเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุจากประชาชนบางส่วน ลักลอบเผาเศษวัชพืชและขยะ
"ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ป้องกันในระดับพื้นที่ ให้ผู้นำท้องถิ่นดูแล รายงานขึ้นมาในระดับอำเภอ รวมทั้งการตั้งศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจชายแดน เพื่อร่วมประชุมแก้ปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้อุณหภูมิความร้อนเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้ปริมาณหมอกควันเพิ่มขึ้นด้วย" รองผวจ.เชียงราย กล่าว.