สาวใหญ่อดีตเจ้าของ รง.ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ย่านสำโรง เกิดอาการเครียด จนคลั่ง ขู่จะเผาตัวเอง ทวงสมบัติที่โดนโกง ตร.เมืองปากน้ำ เกลี้ยกล่อมจนสงบ เจ้าตัวเผยทั้งน้ำตา ถูกลูกชายตัวเองแอบขาย รง. หอบเงินกลับต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.58 พ.ต.ท.ราเชนทร์ ถนัดพจนามาตย์ รอง ผกก.งานจราจร สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้ง มีหญิงสาวขู่จะเผาทำร้ายตัวเอง บริเวณหน้า สภ.เมืองสมุทรปราการ จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ หญิงวัยกลางคน ทราบชื่อ นางพรทรัพย์ วงษ์สะอาด อายุ 57 ปีอดีตเจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ย่านสำโรง จ.สมุทรปราการ นำน้ำมันก๊าดและป้ายข้อความโกศอัฐิของสามี ขู่ว่าจะเผาตัวเองกลางถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้นางพรทรัพย์ใจเย็นๆ จนอาการดีขึ้น
จากการสอบถาม นางพรทรัพย์ ได้เผยทั้งน้ำตาว่า หลังจากนายไพศาล วงษ์สะอาด สามีเสียชีวิตจากการถูกลอบยิง เมื่อวันที่ 23 เม.ย.42 และ ตนถูกจำคุกนานถึง 11 เดือน ด้วยข้อหาจ้างวานฆ่าสามีตนเอง กระทั้งศาลยกฟ้อง เมื่อพ้นโทษออกมา พบว่าลูกชายคนโต อายุ 38 ปี ที่ขณะนั้นเรียนอยู่ประเทศนิวซีแลนด์ได้นำโรงงานซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวที่มีตน นายไพศาล และญาติอีก 2 คนถือหุ้นอยู่ นำไปขายเป็นเงินหลายล้านบาท ก่อนจะนำเงินทั้งหมดกลับไปอยู่ต่างประเทศ โดยที่ลูกชายคนโตพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการติดต่อจากตนผู้เป็นแม่ตลอดกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา โดยตนได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.สำโรงเหนือแล้ว เพราะส่วนของตนนั้นยังไม่ได้เซ็นขาย แต่ลูกชายกลับเอาไปขายได้อย่างไร ทำให้ตนสงสัยว่า อาจมีการปลอมลายเซ็นขณะที่ตนอยู่ในเรือนจำ และยังมีข้อสงสัยถึงเงินประกันชีวิตของสามี ที่ทางบริษัทประกันจ่ายสินไหมทดแทนในส่วนของของลูกชายคนเล็กตามพินัยกรรมของสามี อีก 1.5 ล้านบาทด้วย
นางพรทรัพย์ เล่าอีกว่า ตนมีลูกชาย 2 คน ลูกชายคนเล็ก อายุ 20 ปี เป็นนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นนักเรียนดีเด่นเคยได้ลงตีพิมพ์ในสื่อยักษ์ใหญ่หลายครั้ง แต่ตอนนี้ลูกชายคนเล็กขอตน ตกอยู่ในอาการเครียด ไม่มีทุนที่จะเรียนต่อ ตนซึ่งแม่รู้สึกเป็นห่วงลูกชายเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้ตนต้องไปรับจ้างเป็นแม่บ้านตามผับที่พัทยา มีรายได้ไปวันๆ
นอกจากนั้น นางพรทรัพย์ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ว่าสิ่งที่ตนต้องการคืออยากเห็นลูกชายคนเล็กมีทุนไว้ศึกษาต่อจนจบ ตนอยากจะติดต่อลูกชายคนโตที่อยู่ต่างประเทศ นำเงินมาส่งเสียน้องชายที่กำลังเรียนอยู่ นอกจากนี้ยังได้วอนถึงผู้ที่มีอำนาจ ช่วยตรวจสอบการจ่ายเงินประกันชีวิตของสามีตนที่จ่ายให้ในส่วนของลูกชายขาดหายไปจำนวน 1.5 ล้านบาท เพื่อจะได้เป็นทุนการศึกษาสำหรับลูกชายคนเล็ก
...
อย่างไรก็ตามนางพรทรัพย์ มีอาการดีขึ้นหลังจากที่ได้ระบายความอัดอั้นตันใจกับผู้สื่อข่าว พร้อมยืนยันจะไม่กลับ จ.ชลบุรี จนกว่าจะมีคนกลางเจรจาเรื่องเงินประกัน รวมถึงเรื่องการขายโรงงานในส่วนของเธอที่เธอยังไม่ได้เซ็นลงนาม โดยจะขอนอนตามข้างทางจนทุกอย่างจะเรียบร้อย.