ดาบตำรวจโรงพักมีนบุรีเดินคอตกเข้าคุก หลังศาลจังหวัดสระแก้ว ไม่อนุญาตให้ประกันตัวในคดีร่วมกับพวกบุกปล้นบ้านเสี่ยฟาร์มหมู เกรงจะออกไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานและข่มขู่ผู้เสียหาย ด้านผู้การสระแก้ว สั่งล่าตัวแก๊งสีกากีนอกรีตอีก 3 คน พร้อมส่งกำลังคุ้มครองเหยื่อ 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผย ญาติผู้ต้องหานำภาพกล้องวงจรปิดในห้างสรรพสินค้ามายืนยันความบริสุทธิ์ แต่ยังต้องพิสูจน์ความชัดเจนอีกหลายขั้นตอน
กลายเป็นเรื่องราวบานปลายกรณีมีแก๊งคนร้าย 4 คน สวมรอยอ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม ขอเข้าตรวจค้นยาเสพติด ก่อนจะปล้นทรัพย์นายนิพล อินทร์สืบวงศ์ อายุ 44 ปี เสี่ยเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมู ภายในบ้านเลขที่ 64 หมู่ 11 บ้านเทพนิมิตร ต.ซับมะกรูด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 5,000 บาท กุญแจบ้าน 1 พวง ปืน 9 มม.ออโตเมติก 1 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.พ. ต่อมาตำรวจจับกุม 1 ในแก๊งคนร้ายคือ ด.ต.รังสรรค์ ดีเวียง ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ท.ธงชัย ลบพื้น หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด นำตัว ด.ต.รังสรรค์ ดีเวียง ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ไปขออำนาจศาลจังหวัดสระแก้ว ฝากขังผัดแรกพร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจ เกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและข่มขู่ผู้เสียหาย ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกัน จากนั้นนำตัวไปพิมพ์มือทำประวัติ และส่งเข้าเรือนจำทันที
ขณะที่นางนุชจรินทร์ โลเกตุ น้องเมียเสี่ยฟาร์มหมู 1 ในเหยื่อแก๊งตำรวจนอกรีต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ดูภาพถ่ายหนุ่มผมยาวที่มีใบหน้าคล้ายกับพระไชยยันต์ หรือ ด.ต.ไชยยันต์ ธรรมศาสตร์ ผบ.หมู่สอบสวน สน.ฉลองกรุง ซึ่งอ้างว่าบวชเป็นพระมากว่า 2 สัปดาห์ และหลังเกิดเหตุพระไชยยันต์ เดินทางเข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด ไปแล้วนั้น หลังดูภาพยืนยันว่าชายผมยาวคนดังกล่าวร่วมอยู่ในแก๊งปล้นบ้านพี่เขยตนในวันเกิดเหตุจริง มั่นใจว่าเป็น 1 ในกลุ่มของ ด.ต.รังสรรค์ที่ถูกจับกุมไปแล้วแน่นอน ขณะนี้รู้สึกหวาดกลัวมาก เกรงคนร้ายจะย้อนกลับมาทำร้ายครอบครัวเพื่อปิดปาก อยากวิงวอนให้เร่งจับกุมคนร้ายโดยเร็ว พร้อมส่งกำลังดูแลพวกตนด้วย
...
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหายังเป็นคนเดียวอยู่ ส่วนที่เหลืออีก 3 คน ให้ตำรวจลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อจะออกหมายจับทั้งหมด ขณะนี้มุ่งไปยังผู้ที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับแก๊งตำรวจเหล่านี้ ให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเร่งขยายผลต่อเนื่อง ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหายได้สั่งให้ชุดสายตรวจออกลาดตระเวนและเฝ้าระวังเหตุที่บ้านผู้เสียหายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความอุ่นใจ
วันเดียวกัน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานว่า ด.ต.รังสรรค์ ดีเวียง ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ผู้ต้องหาคดีปล้นบ้านเสี่ยฟาร์มหมูสระแก้ว ให้ญาตินำพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดในห้างสรรพสินค้า ขณะที่ ด.ต.รังสรรค์ เข้าไปติดต่อทำธุระที่ห้างสรรพสินค้าในช่วงเวลาใกล้เคียงที่มีการรับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ และสถานที่ตั้งของห้างดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุมาก เพื่อเป็นหลักฐานใช้แสดงความบริสุทธิ์ และยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมกระทำความผิด แต่ชุดจับกุมไม่เชื่อ นำตัวผู้ต้องหาฝากขัง และผู้ต้องหาได้ยื่นหลักฐานขอประกันตัวในชั้นศาล แต่ศาลไม่ให้ประกันตัว ซึ่งชุดสืบสวน ภ.จ.สระแก้ว ยืนยันพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายชี้ภาพ ด.ต.รังสรรค์เข้าร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย
“เรื่องนี้ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดว่ามาจากสถานที่ใด ช่วงเวลาไหน เพื่อใช้ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะต้องมีการพิสูจน์ทราบหลายอย่าง ได้กำชับตำรวจ ภ.จ.สระแก้ว ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ทุกอย่างว่ากันตามพยานหลักฐาน การนำหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดมาแสดงความบริสุทธิ์ย่อมเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งข้อมูลพยานหลักฐานต้องนำเข้าต่อสู้คดีในชั้นศาล หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงชัดเจนว่าผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจะต้องสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เชื่อมั่นตำรวจชุดสืบสวนไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง แต่เป็นการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่” พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว