ภายหลังจากเหตุระเบิดบริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที...
จากการลงพื้นที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 10 กว่านายที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ และมีการเดินตรวจตราอย่างเข้มงวดมากขึ้น ทั้ง รปภ.ของบีทีเอส สยามพารากอน สยามสแควร์วัน สำหรับกล้องวงจรปิดนั้น มีกล้อง 1 ตัว ที่ติดตั้งอยู่บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้ากับห้างพารากอน โดยมุมได้เอียงองศามายังจุดเกิดเหตุที่คนร้ายได้วางระเบิดไปป์บอมบ์ข้างร้าน BMA Express พอดี ส่วนกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง จากการเดินสำรวจพบว่ามีอีกประมาณ 4-5 ตัว แต่ได้หันองศาไปทางมุมอื่น



ทีมข่าวฯ ได้ขอสัมภาษณ์กับทาง เจ้าหน้าที่ รปภ. สยามพารากอน เจ้าหน้าที่ รปภ. บีทีเอส และเจ้าหน้าที่ รปภ. สยามสแควร์วัน ซึ่งตอบเหมือนกันว่า "ไม่เห็น ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์" พร้อมกับเดินหนีทีมข่าวฯ ทันที
ด้าน ผู้ประกอบการที่ขายของอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ระบุว่า วันเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากปิดร้านและกลับบ้านไปก่อน ซึ่งหลังจากทราบข่าวก็รู้สึกตกใจปนหวาดกลัว แต่ก็ต้องมาค้าขายตามปกติ และคิดว่าหลังจากนี้ทางบีทีเอสน่าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม


ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุเป็นแหล่งเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ มีผู้คนเดินพลุกพล่าน ยิ่งช่วงเวลาเกิดเหตุ 20.00 น. มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ นักศึกษาเดินผ่านบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมาก จึงทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาไม่ได้สังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น
ขณะที่ เจ้าหน้าที่บีทีเอสรายหนึ่ง เผยว่า เมื่อช่วง 3 วันก่อนเกิดเหตุ ได้เห็นชายคนหนึ่งเดินผ่านด้านหลังของร้าน BMA Express ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีใครเดินมาบริเวณนี้ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าชายคนดังกล่าวอาจจะมาดูลาดเลาก่อนเกิดเหตุ แต่น่าเสียดายไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่บริเวณนั้น จึงไม่สามารถจับภาพชายต้องสงสัยได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และจะเตรียมนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเสนอต่อศาล เพื่อพิจารณาอนุมัติหมายจับบุคคลต้องสงสัยภายในเร็วๆ นี้.