1ใน2พิรุธเยอะ-เซ็กซ์จัดลุ้นผลตรวจดีเอ็นเอมัด
ล็อกแล้ว 2 ผู้ต้องสงสัยเป็นโจรข่มขืนต่อเนื่อง คนแรกเป็นอดีตทหารเกณฑ์รูปร่างหน้าตาตรงกับภาพสเกตช์ ส่วนคนที่ 2 เป็นช่างไฟ พบหลักฐานเสื้อเชิ้ตที่ใส่ก่อคดีในห้องผู้ต้องหา แต่ให้การปฏิเสธทั้งคู่ ชุดสืบสวนตัดสินใจจับตรวจดีเอ็นเอ ผลออกวันที่ 30 ม.ค.นี้ รื้อฟื้นมาตรการ “บางคนทีโมเดล” เพื่อป้องกันชาวบ้านผวาโจรข่มขืน สงสัยพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ของผู้ต้องหาเนื่องจากติดยาเสพติด และยังต้องใช้ มือกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก่อนข่มขืน ขณะที่รางวัลนำจับคนร้ายทำป่วน “สมยศ” ยอมรับมีข้อดีและข้อเสีย เตือนอย่าเห็นเป็นเรื่องสนุกโทร.ให้ข้อมูลเท็จ
กรณีคดีโจรหื่นกามอาละวาดข่มขืนหญิงสูงอายุต่อเนื่องในพื้นที่ สภ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม และในพื้นที่ จ.นครปฐม ทั้งสิ้น 10 คดี เหยื่อบางรายต่อสู้ขัดขืนจนถูกทำร้ายเสียชีวิตไป 2 คน จนตำรวจกองปราบปรามและตำรวจสืบสวนภาค 7 ร่วมมือตั้งชุดสืบสวนคลี่คลายคดีเร่งจับกุมคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมของคนร้ายสร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก เบื้องต้นจากการสอบสวนตำรวจได้สเกตช์ภาพคนร้ายเป็นชายไทยสูงประมาณ 170 ซม. ร่างกายบึกบึน มีกล้ามเนื้อที่ท้องเป็นซิกซ์แพ็ก
ความคืบหน้าจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันที่ 29 ม.ค. พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุข่มขืนหญิงชราวัย 70 ปี ที่ ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นคดีที่ 10 ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ระดมจัดชุดทำงานหลายชุดลงพื้นที่หาข่าว จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆเกี่ยวกับบุคคลต้องสงสัยที่เข้ามาในพื้นที่ได้รับความร่วมมือจากพยานเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเห็นว่าเป็นตำรวจกองปราบฯ ที่ผ่านมาพยานและผู้เสียหายหลายรายให้ข้อมูลกับตำรวจพื้นที่น้อยมาก ขณะนี้เหมือนมาเริ่มต้นใหม่เพราะเพิ่งมาจับคดีนี้ได้เพียง 3 วัน ดังนั้นต้องตรวจสอบกลุ่มอาชีพต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นคนงานก่อสร้าง คนหาปลา คนปีนต้นมะพร้าว ต้องตรวจให้หมด หลังจากจัดชุดทำงานแล้วลงไปตรวจสอบหาบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายแอบมาพักหรือหลบซ่อน กองปราบฯตรวจพื้นที่หมดทั้ง 3 สถานที่ 2 ตำบล รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงเขตรอยต่อ
...
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนกองปราบปรามและชุดสืบสวนภาค 7 ได้เบาะแสผู้ต้องสงสัยคดีข่มขืนหญิงสูงอายุต่อเนื่องแล้ว 2 คน เป็นคนที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ รายแรกเป็นอดีตทหารเกณฑ์มีรูปพรรณใกล้เคียงคำให้การของผู้เสียหายที่ถูกข่มขืน ตรวจค้นบ้านพบมีด จักรยาน และภาพผู้หญิงโป๊ติดเต็มห้อง แต่ผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธ ส่วนรายที่ 2 เป็นอดีตนักเรียนอาชีวะ แผนกช่างไฟฟ้า ซึ่งชุดสืบสวนได้พยานชี้ยืนยันว่า เสื้อเชิ้ตของผู้ต้องหาที่พบในบ้านเหมือนเสื้อที่คนร้ายใส่เข้าไปก่อเหตุ และจากการตรวจสอบพฤติกรรมทางเพศ พบว่าเป็นคนมีอารมณ์ทางเพศสูง ชุดสืบสวนจึงขอเก็บดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญสถาบันนิติเวชฯ รพ.ตร. ตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบดีเอ็นเอของคนร้ายที่ได้จากที่เกิดเหตุ คาดว่าได้ผลตรวจวันที่ 30 ม.ค. ก่อนพบผู้ต้องสงสัยชุดสืบสวนได้กระจายกำลังตรวจสอบสถานที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าบริเวณพงหญ้าใกล้บ้านหญิงชราเหยื่อรายล่าสุดพบยาทากันยุง ที่ชุดสืบสวนเชื่อว่าเป็นของคนร้ายใช้ทาขณะรอก่อเหตุ ทำให้ชุดสืบสวนตัดประเด็นคนร้ายใช้เรือมาก่อเหตุข่มขืน ให้น้ำหนักไปที่การสืบหาผู้ต้องสงสัยที่อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ จนพบผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน
ที่ศูนย์ฝึกอบรมสืบสวนสอบสวน ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผช.ผบ.ตร. เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจกองปราบปราม นครบาล สอบสวนกลาง สืบภาค 7 สืบสวน สภ.นครชัยศรี สภ.พุทธมณฑล สภ.บางเลน และ สภ.สามพราน เพื่อแบ่งงาน สำหรับประเด็นการตามหาเสื้อคนร้ายตามภาพสเกตช์ มีคำสั่งให้ตำรวจในพื้นที่ติดทะเลที่ทำประมงหรือมีคนงานทำปลา เพราะเชื่อว่าเป็นเสื้อที่คนงานหรือบริษัทรับขนส่งปลาหรือทำแพปลานิยมสวมใส่เพราะมีชื่อติดหน้าอก นอกจากนี้ ยังตรวจสอบตามวัดที่คนจรจัดหรือบุคคลแปลกหน้าไปพัก เพื่อนำตัวมาทำประวัติตรวจหาดีเอ็นเอเก็บข้อมูลประวัติ ขณะที่ศูนย์วิทยุ 191 ที่รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีกว่า 100 คน ตำรวจได้จดบันทึกข้อมูลเพื่อตรวจสอบต่อไป
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผช.ผบ.ตร. เผยว่า ในการประชุมวันนี้ให้นำ 2 เรื่องนี้ไปดำเนินการคือ 1.ตรวจสอบเสื้อที่ผู้เสียหายให้เบาะแสมาตามแพปลา ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม 2.ให้ตรวจสอบยังร้านค้าและร้านผู้ผลิต รวมถึงร้านรับสกรีนเสื้อว่ามีการสกรีนเสื้อให้กับลูกค้ารายใดบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการติดตาม จริงๆแล้วจะมีเรื่องประชุมมากกว่านี้ แต่ปรากฏว่าประชุมได้เพียงแค่ 1 ชม.ก็เกิดหม้อไฟฟ้าแรงสูงของศูนย์ฝึกระเบิด ทำให้ไฟฟ้าดับทุกอาคาร จึงขอเลื่อนไปประชุมอีกครั้งวันต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.กล่าวว่า สั่งชุดสืบสวนให้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาและนักโทษคดีข่มขืนที่ถูกดำเนินคดีและพ้นโทษมา ตรวจสอบประวัติย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่มีประวัติการก่อคดีมาก่อน ส่วนผลการตรวจเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ไม่ตรงกับประวัติผู้ที่เคยทำบัตรประชาชนไว้ที่กองบัตรประชาชน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ได้ยืนยันว่าคนร้ายไม่ใช่คนไทย เนื่องจากการจัดทำประวัติผู้ทำบัตรประชาชนมีการพิมพ์ลายนิ้วโป้ง ไม่ได้เก็บลายพิมพ์นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว จึงนำลายนิ้วมือที่ตรวจได้ในที่เกิดเหตุไปตรวจเปรียบเทียบลายนิ้วมือของผู้ต้องหา หรืออดีตนักโทษที่ถูกดำเนินคดีข่มขืนที่มีการตรวจเก็บลายพิมพ์นิ้วมือครบ 10 นิ้ว ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัยขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร. เข้าร่วมประสานข้อมูลการสืบสวนสอบสวนและตรวจพิสูจน์หาพยานหลักฐานเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนหาตัวคนร้าย
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า สั่งให้ติดตามทุกอย่างที่เป็นประเด็นต้องพิสูจน์ทราบ ในแต่ละชุดสืบสวนภาค 7 และกองปราบปราม และจัดตั้งเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นเบาะแสการติดตามหาตัวคนร้ายโดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ยังไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก แนวทางสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ช่วงที่ก่อนเกิดเหตุ เฝ้าวนเวียนดูเป้าหมายที่เป็นคนอายุมาก อยู่คนเดียวและบ้านพักห่างไกลชุมชนตามต้องการ ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบบุคคลที่น่าสงสัยเพื่อนำมาตรวจเปรียบเทียบพยานหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้ในที่เกิดเหตุ
...
ส่วน พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้พูดคุยนักจิตวิทยาเกี่ยวกับพฤติกรรมคนร้ายน่าจะเป็นคนมีความผิดปกติทางเพศ อาจเป็นคนที่ชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก คนชรา หรือแม้แต่ศพผู้เสียชีวิต ภาษานักจิตวิทยาเรียกว่า เป็นผู้ป่วยจิตวิปริตสอดรับกับพฤติกรรมคนร้ายที่เกิดจากแรงกระตุ้นภายในจะเกิดบ่อยครั้ง ต้องมีการป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามากระทำผิด การเข้าพื้นที่ปิดล้อมของตำรวจภาค 7 และตำรวจกองปราบปรามทำให้คนร้ายไม่กล้าลงมือ ผู้ป่วยลักษณะนี้เป็นคนอารมณ์ไม่คงที่ ไม่เข้มแข็ง ไม่กล้าเปลี่ยนพื้นที่ ไม่กล้าออกไปไหนไกล เพราะไม่คุ้นเคยและมีความกลัว
“ขณะนี้ใช้มาตรการป้องกันแบบ “บางคนทีโมเดล” สมัยที่ผมเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. ในพื้นที่มีคดีข่มขืนคนแก่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 กองพิสูจน์หลักฐานชี้ว่าคนร้ายคนเดียวกันก่อเหตุต่อเนื่องในพื้นที่ ในช่วงเกิดเหตุผู้เสียหายได้โทรศัพท์แจ้งเหตุ 191 ทำให้คนร้ายหลบหนีไปเนื่องจากกลัวคนเข้ามาช่วย ทำให้ได้คิดโครงการบางคนทีโมเดล ประกอบด้วยตำรวจฝ่ายปกครอง และเอกชนร่วมติดตั้งกริ่งหรือไซเรนในพื้นที่เป้าหมายอ่อนแอ มีผู้สูงอายุ หรือคนชราอยู่ เพื่อเป็นสัญญาณแจ้งเหตุคดีอาชญากรรม และช่วยเหลือคนชราหรือผู้สูงอายุที่พักอาศัยอยู่ตามลำพัง หรือกรณีป่วยต้องได้รับความช่วยเหลือ ตั้งแต่นั้นมาไม่มีเหตุเกิดขึ้น” อดีตที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.จรัมพรกล่าวอีกว่า ในส่วนพฤติกรรมคนร้ายที่มีความก้าวร้าวนักจิตวิทยาให้ข้อมูลว่า อาจเป็นกลุ่มผู้เสพยาเสพติด มักแสดงอารมณ์ก้าวร้าว จะต้องมีการกระตุ้นทางเพศ เนื่องจากอวัยวะเพศอ่อนตัวช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ จากการสอบสวนผู้เสียหาย คนร้ายใช้มือกระตุ้นอวัยวะเพศให้แข็งตัวก่อนลงมือข่มขืน และมีข้อมูลของคนร้ายได้ถามหายาเสพติดขณะก่อเหตุ ซึ่งเป็นอีกข้อมูลที่น่าสนใจของนักจิตวิทยา ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้
...
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน การตรวจสอบผู้ต้องสงสัยมีการตีกรอบแคบลง พยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุหรือบริเวณใกล้เคียง นำมาประกอบการสืบสวนสอบสวน เพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้าย ขณะนี้พยายามใช้ทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นด้านนิติวิทยาศาสตร์ หรือด้านอื่นๆมาสนับสนุนการสืบสวนสอบสวน สั่งการให้ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ. และ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร.ด้านนิติวิทยาศาสตร์ ไปช่วยสนับสนุนการทำงาน มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร พยานหลักฐานที่ได้เพียงพอนำไปสู่ตัวผู้กระทำความผิด คิดว่าคงไม่นานเกินรอขอเวลาให้เจ้าหน้าที่หน่อย ตนยังสั่งการให้ทุกคนทำงานด้วยความรอบคอบ อย่ารีบสรุปหรือดำเนินการโดยไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ขณะนี้รู้กรุ๊ปเลือดของคนร้ายแล้ว หากชุดสืบสวนได้ตัวผู้ต้องสงสัยมีกรุ๊ปเลือดตรงกับคนร้าย จะนำตัวมาตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอที่ได้จากที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเป็นคนที่วนเวียนอยู่ในพื้นที่หาข้อมูลเหยื่อก่อนลงมือข่มขืน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อไปว่า การตั้งรางวัลนำจับคนร้ายที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ มีผู้หวังดีแจ้งเบาะแสเข้ามา ตนกำชับให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด พร้อมยอมรับว่า การตั้งรางวัลนำจับมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ เป็นแรงจูงใจให้คนที่รู้เบาะแส แต่มีข้อเสียคือ บางคนเห็นเป็นเรื่องสนุก เมื่อตรวจสอบไปกลับไม่ได้เรื่อง ขอฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าสร้างความปั่นป่วน หากบุคคลใดมีข้อมูลหรือเบาะแสที่แท้จริงขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามจับกุม ป้องกันการไปก่อเหตุซ้ำอีก ส่วนการตรวจหาเบาะแสคนร้ายสั่งให้ฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลเสื้อสีน้ำเงินแขนยาวมีชื่อติดที่หน้าอกตามคำให้การของพยาน เพื่อตีกรอบการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่น่าจะทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง
...