รอง ผบช.ภ.4 สั่งล่าเจ้าของร้านค้าประเวณี 4 แห่งเมืองอุดรฯ หลังบุกทลาย ผงะเจอสาวค้ากามเพียบ พร้อมตั้งกรรมการสอบ หากมีตำรวจในพื้นที่เกี่ยวข้อง สั่งดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด...
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานความความคืบหน้าการกวาดล้างจับกุมการค้าประเวณี 4 แห่ง ย่าน "เสาไฟแดง" และ "ซอยอดุลยเดช 2" แหล่งค้าประเวณีเก่าแก่ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ตามแผนปฏิบัติการ “ดอกบัวแดง” ของนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผวจ.อุดรธานี ร่วมกับสำนักการสอบสวนนิติการกรมการปกครอง จับกุมสาวลาว 33 คน โดยมีอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 คน
ล่าสุด พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ทุกฝ่ายได้ร่วมกับสืบสวนจับกุมการค้าประเวณีตามนโยบายรัฐบาล การป้องปรามการค้ามนุษย์เป็นลักษณะของการใช้บ้านเช่า มาทำเป็นห้องแบ่งเช่า เพื่อแฝงมาค้าประเวณี ไม่ใช่ลักษณะเหมือนที่เราเคยเห็น คือผู้หญิงเข้าไปอยู่ในตู้กระจกเปิดไฟให้คนไปเลือก แต่มีการเปิดร้านขายของชำบังหน้า แล้วชักชวนมาค้าประเวณีในห้องตนเอง
ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่า การดำเนินคดีแบ่งเป็นหลายส่วน ส่วนของเด็กสาวสองคนอายุน้อยกว่า 18 ปี แม้จะยอมรับสารภาพว่ามาค้าประเวณีแบบสมัครใจ แต่ก็เป็นข้อยกเว้นไม่ดำเนินคดี ให้ถือว่าเด็กตกเป็นเหยื่อจะกันไว้เป็นพยาน เพื่อสอบสวนหาผู้กระทำผิด ส่วนที่สองคือผู้ที่จะต้องถูกดำเนินคดีแบ่งเป็นผู้กระทำผิดค้าประเวณี ในข้อหาชักชวนผู้อื่นค้าประเวณีและมั่วสุมในสถานที่ค้าประเวณี เพื่อหวังค้าประเวณี อีกส่วนคือเป็นพยานสอบสวนจับกุมผู้เป็นธุระจัดหา
...
ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า ได้สั่งการให้ระดมพนักงานสอบสวน เร่งรัดให้คดีมีความรวดเร็วส่งฟ้องผู้ต้องหาในกรอบเวลาให้ทัน เพราะผู้ต้องหามีจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ก็ต้องเป็นพยาน สอบสวนหาเจ้าของ หรือผู้จัดการให้มีการค้าประเวณีใครเป็นผู้ชักชวนมา ใครเป็นเจ้าของบ้าน ใครเป็นผู้แบ่งผลประโยชน์ จากนั้นจะต้องสอบสวนลงไประดับล่าง ใครเป็นเจ้าของที่ดิน ใครมาเช่าใครอยู่ในปัจจุบัน เพื่อออกหมายจับตัวจริงมาดำเนินคดี
ด้านนายโชคชัย วิเชียรชัยยะ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากคัดกรองหญิงสาวชาวลาวทั้งหมด ในส่วนอายุน้อยกว่า 18 ปี ได้ส่งมอบเด็กสาว จำนวน 2 คน ไปให้บ้านพักเด็กอุดรธานีไปดูแลตามอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะการปกป้อง ไม่ให้เด็กถูกข่มขู่ หรือได้รับอันตรายส่วนที่อายุเกิน 18 ปี จำนวน 31 คน ก็มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินคดี พร้อมให้ผลักดันออกนอกประเทศตามขั้นตอน
ต่อมา พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานค้าประเวณีทั้ง 4 แห่ง ที่ถูกเข้าทลายเมื่อคืนนี้ โดยมีการตรวจสอบห้องพัก ห้องที่ใช้ค้าประเวณีเส้นทางหลบหนี ที่เชื่อมต่อถึงกันตลอดทั้งซอย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางมาประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.ชัยญัติ พร้อมพนักงานสอบสวน และผู้ดูแลรับผิดชอบคดี ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ เปิดเผยว่า ภายหลังมีการสืบสวนจับกุมการค้าประเวณีเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนรับมอบหมายจาก ผบช.ภ.4 ให้มาดูเรื่องของสำนวน โดยทาง พงส.สรุปสำนวนมีผู้ต้องหาเป็นชาวลาวทั้งหมดรวม 33 คน เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 คน โดยทั้ง 2 คน ได้ส่งตัวให้ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี รับไปดูแล ส่วนที่เหลือ 31 คน ได้ทำการสอบปากคำแล้ว โดยทั้งหมดรับสารภาพว่ามาด้วยความสมัครใจ โดยจะมีการเปรียบเทียบปรับ ข้อหาเตร็ดเตร่และค้าประเวณี รวมถึงมี 2 คนที่ไม่มีหนังสือเดินทาง และหนังสือเดินทางขาดอายุ จะส่งศาลเพื่อดำเนินการต่อไป
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนตัวเจ้าของซ่องและผู้ดูแล ตนสั่งการให้ทางชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ให้ติดตามจับกุมตัวมาให้ได้หากหลบหนีให้ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับโดยให้เด็กทั้งหมดชี้รูป ชี้หลักฐานที่มีเป็นพยานว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงใครเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งหากนำตัวมาได้ ได้รีบนำตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ จะให้ทาง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาอีก เพื่อตรวจสอบว่า ทาง สภ.เมืองอุดรธานี ได้ปล่อยปละละเลย หรือมีผลประโยชน์ใดเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางตำรวจจะทำอย่างตรงไปตรงมา
"ตนได้กำชับในที่ประชุมว่า อย่าให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อุดรธานีอีก รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะเรื่องของการค้ามนุษย์ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งที่เด็กที่จับมาเมื่อคืน 2 คนจะบอกว่ามาด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับขู่เข็ญ เขาบอกมาเพราะทางบ้านยากจน" พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าว