"คนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 170 ซม. ร่างกายบึกบึนแข็งแรง มือสาก"

นี่คือ รูปพรรณคนร้าย "ฆาตกามต่อเนื่อง" ที่สร้างความตกตะลึงและหวาดผวาไปทั้งบาง ในพื้นที่ จ.นครปฐม และแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม รวมถึง จ.สมุทรสาคร วันนี้ "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" จะไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อร่วมแกะรอยล่าตัวฆาตกรหื่นรายนี้

เหตุการณ์ร้ายแรงดังกล่าวเริ่มปรากฏขึ้น เมื่อ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรทท.ผบก.ป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตั้งทีมไล่ล่าฆาตกามรายนี้ หลังเกิดเหตุ เมื่อเวลา 01.30 น. เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2557 ในพื้นที่ สภ.พุทธมณฑล โดยคนร้ายปีนรั้วเข้าบ้านหลังหนึ่ง เดินย่ามใจขึ้นไปที่ชั้นสอง โดยมีเป้าหมายที่หญิงวัย 70 ปี และพยายามจะข่มขืน แต่บังเอิญลูกสาว วัย 39 ปี มาพบจึงถูกล่วงละเมิดแทนหญิงชรา

ที่น่าตกใจคือ เมื่อเปรียบเทียบ DNA คนร้าย ก็พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วมากถึง 8 คดี โดย 2 ใน 8 คดี หญิงชราถูกทำร้ายกระทั่งเสียชีวิต

...

ย้อนรอยฆาตกามโหด ลงมือกับหญิงชราไร้ทางสู้

จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีข่มขืนหญิงชราในพื้นที่ใกล้เคียงพบว่า คดีแรกเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. 26 ก.ย.2553 ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนหญิงชราวัย 70 ปี ที่อยู่บ้านคนเดียวท้องที่ สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร คดีที่สองเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 10 พ.ย.2553 ท้องที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม บุกเข้าไปข่มขืนหญิงชราวัย 71 ปี คดีที่ 3 เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 8 ม.ค.2555 ท้องที่ สภ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม คนร้ายเข้าไปข่มขืนฆ่าหญิงชราอายุ 61 ปี ที่อยู่บ้านเพียงลำพังในพื้นที่ ต.บางยี่รงค์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม คดีที่สี่เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.2555 ท้องที่ สภ.บางคนที ครั้งนี้คนร้ายข่มขืนหญิงชราอายุ 70 ปี ที่บ้านกลางสวนผลไม้ในตำบลเดียวกัน

ครั้งที่ห้าเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 6 ธ.ค.2555 ท้องที่ สภ.บางคนที คนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนสาวใหญ่วัย 59 ปี ครั้งที่หกเมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 16 ธ.ค.2555 ท้องที่ สภ.บางคนที คนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนสาวใหญ่วัย 47 ปี ครั้งที่เจ็ดเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 23 มี.ค.2556 คนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนหญิงชราวัย 75 ปี เหตุเกิดท้องที่ สภ.สามพราน จ.นครปฐม ครั้งที่แปดเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 11 มิ.ย.2556 ท้องที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม คนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนแล้วฆ่าหญิงชราวัย 78 ปี และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2557 คนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนหญิงวัย 39 ปี ที่อยู่กับแม่วัย 70 ปี รวมทั้งหมดที่ตรวจสอบพบคนร้ายรายนี้ก่อเหตุรวม 9 คดี

ไม่จบแค่ 9 คดีพบเหยื่อ 2 ราย ไม่ได้เข้าแจ้งความ

หลังตามสืบและลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อฆาตกามรายนี้ ไม่ได้จบที่ 9 คดี โดย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่รื้อคดีใหม่ และพบว่าได้เกิดเหตุในพื้นที่รอยต่อ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ไปยัง จ.ราชบุรี อีก 2 ราย โดยเหยื่อทั้งสองรายมีอายุระหว่าง 70-78 ปี ถูกคนร้ายน่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน ข่มขืนระหว่างปี 2554 แต่เหยื่อทั้งสองรายไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดี

เย้ยตำรวจ! หื่นข่มขืนแม่เฒ่า รายที่ 12

ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่าฆาตกามต่อเนื่อง ฆ่า และข่มขืนหญิงชรา มาแล้วรวม 11 ราย ล่าสุด วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. คนร้ายก็ลงมือซ้ำ คล้ายจงใจเยาะเย้ยการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยได้ลงมืองัดบ้านหลังหนึ่งริมคลองรับน้ำมหาสวัสดิ์ โดยบ้านเกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นกึ่งปูนกึ่งไม้ เนื้อที่ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด พบซากสุนัขเพศผู้ สีน้ำตาลนอนตายอยู่ข้างบ้าน 1 ตัว ลักษณะถูกวางยาเบื่อน้ำลายฟูมปาก

...

นางเมรี (นามสมมติ) อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นผู้เสียหาย นั่งอยู่ในสภาพหวาดกลัว ที่ใบหน้าและริมฝีปากมีรอยฟกช้ำ มีลูกชายและญาติๆ คอยปลอบใจ เล่านาทีเกิดเหตุว่า ขณะนอนหลับรู้สึกตัวมีคนร้ายสวมเสื้อดำ กางเกงดำ สวมหมวกไหมพรมเห็นใบหน้า มีไฟฉายคาดหัว รูปร่างกำยำแข็งแรง ไหล่กว้าง สูงประมาณ 160-170 ซม. มือหยาบกร้าน สำเนียงคนภาคกลาง ใช้มีดคล้ายมีดอีโต้จ่อที่คอขู่ว่าอย่าส่งเสียง ก่อนถลกผ้าถุงแล้วข่มขืนจนเสร็จ จากนั้นคนร้ายได้รื้อทรัพย์สินแล้วหลบหนี จึงรีบโทรศัพท์หาลูกชายให้มาช่วยเหลือ ส่วนทรัพย์สินที่หายไปเป็นพระเลี่ยมทอง หลวงพ่อวัดไร่ขิง พร้อมเงินสดอีก 5 พันบาท

ย้อนรอย ไล่ล่า ตั้งเป้าลากคอให้ได้

ที่ผ่านมา ตำรวจได้ระดมกำลังย้อนรอยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมเก็บหลักฐาน สอบปากคำเหยื่อ และพยานในคดีต่าง ๆ จนกระทั่งมีข้อมูลว่า ฆาตกามรายนี้มีการวางแผนและเตรียมการก่อนลงมือเป็นอย่างดี ทุกครั้งจะลงพื้นที่ดูเป้าหมายว่ามีใครอยู่ในบ้านบ้าง มีทางเข้าออกตรงไหน เลี้ยงหมากี่ตัว พันธุ์อะไร รายละเอียดเหล่านี้ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์ ในการเฝ้าดู

ทุกครั้งที่ลงมือข่มขืนจะไม่สวมถุงยาง ใช้เวลาประมาณ 1 นาทีเสร็จภารกิจ เป็นอย่างนี้เกือบทุกราย บางครั้งเมื่อบุกเข้าไปเจอผู้เสียหายจะถามหาเงินว่าซ่อนอยู่ตรงไหน มีผู้เสียหายรายหนึ่งโดนขู่ว่า เงินอยู่ไหน ให้เอาเงินมา อยากยาม้า เมื่อได้เงินแล้วจะข่มขืนเหยื่อใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที ก่อนที่จะหลบหนี ถ้าผู้เสียหายร้องจะถูกคนร้ายกระทืบ บางคนตายบางคนบาดเจ็บเนื่องจากอายุมาก

...

จากแนวทางการสืบสวนคาดว่าคนร้ายอาจจะเป็นพวกคนงาน รับจ้างปอกมะพร้าว เนื่องจากเสื้อบางตัวที่คนร้ายทิ้งไว้มีใยมะพร้าวติดที่เสื้อ หรือเป็นคนงานรับถมดิน เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรายจำได้ว่ามีกลิ่นดินติดที่เสื้อ มีอยู่ 1 ราย ผู้เสียหายจำได้ว่าคนร้ายใส่เสื้อคอโปโล ที่กระเป๋าเสื้อปักอักษรตัวหนังสือว่าประเสริฐ แต่จำตัวล่างไม่ได้ คาดว่าน่าจะเป็นชื่อของบริษัท ส่วนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ หาพยานหลักฐานเพิ่ม ซึ่งล่าสุดได้มีการสเกตช์ภาพคนร้ายไว้แล้ว

ขณะที่ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ ปรึกษา สตช. กล่าวในรายการเจาะข่าวเด่น ตอนหนึ่งว่า เวลาคนร้ายลงมือกับเหยื่อ จะพูดจาปกติ ไม่ได้ตะคอก ดังนั้น เวลาใช้ชีวิตประจำวัน เขาอาจจะดูเป็นคนปกติ ส่วนพฤติกรรมดังกล่าว นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่าอาจจะมีการเบี่ยงเบนทางเพศ หรือ บกพร่องทางเพศ ไม่สามารถแต่งงานได้ตามปกติ ส่วนข้อมูลที่ว่า เวลาข่มขืนเหยื่อไม่เกิน 1 นาที เราคาดว่านี่อาจจะเป็นปมด้อยของคนร้าย จึงอาจไประบายอารมณ์กับผู้สูงอายุหรือคนไม่มีทางสู้  

ชาวบ้านผวาชายแปลกหน้า เชื่อหากได้ตัว DNA มัดแน่น

ยิ่งปล่อยเวลาเนิ่นนานชาวบ้านก็ยิ่งหวาดผวา ทั้งนี้ หญิงชราในพื้นที่ที่ถูกก่อเหตุต่างอยู่ในอารมณ์หวาดผวา ไม่กล้าออกมาเดินยามค่ำคืน ขณะที่ลูกหลานก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างใกล้ชิด พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เผยว่า ตำรวจทำงานกันอย่างเต็มที่ คดีมีความคืบหน้ามาก สังเกตว่า คนร้ายจะก่อเหตุในช่วงวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ละคดีการก่อเหตุมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นเป็นหญิงสูงวัยลักษณะขาวอวบ ขณะนี้มีการตื่นตัวในภาคประชาชนมาก มีการแจ้งเบาะแสผู้ต้องสงสัยจากการดูภาพสเกตช์ หากชายแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่จะแจ้งตำรวจ โดยสั่งการให้รับโทรศัพท์ตลอด 24 ชม. เมื่อแจ้งแล้ว ตำรวจต้องเดินทางไปให้รวดเร็วเพื่อนำมาทำประวัติตรวจสอบ

...

ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า คนร้ายมีความไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป กรรมวิธีการสืบสวนจึงซับซ้อน ส่วนเรื่องภาพสเกตช์ของคนร้ายที่มีใบหน้าต่างกันทั้งสองรูป หรือบางคนมองแล้วอาจถามว่าใช่ใบหน้าแบบนี้หรือไม่ ต้องบอกว่า คนร้ายก่อเหตุในช่วงเวลาดึกอยู่ในความมืด ประกอบกับผู้เสียหายอยู่ในอาการตกใจจึงได้ภาพออกมาในลักษณะดังกล่าวคิดว่าใกล้เคียงที่สุด

"เรื่องนี้ถือว่าเป็นคดีสำคัญที่สุด เพราะหากปล่อยเนิ่นนานไปจะสร้างความหวาดผวาให้กับคนแก่ที่หากินสุจริต ไม่กล้าออกไปไหน และต้องระวังตัวอาจเกิดอันตรายได้ โดยต้องขอเวลาให้ตำรวจทำงานก่อน มั่นใจต้องได้ตัวแน่นอน" พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. กล่าว 

พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. ระบุว่า หากจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ ผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับที่ตำรวจเก็บไว้ก็จะสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า เป็นผู้กระทำความผิด ที่ผ่านมาได้มีการส่งตัวผู้ต้องสงสัยมาเปรียบเทียบดีเอ็นเอแล้วหลายราย แต่ยังไม่ตรงกับหลักฐานที่เก็บไว้เปรียบเทียบสักราย

ตั้งรางวัลนำจับ 3 แสน ล่าตัวคนร้าย

ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเสนอรางวัลนำจับให้แก่ผู้ให้เบาะแสล่าตัวคนร้ายรายนี้ เป็นเงินรางวัล 2 แสนบาท ขณะที่ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.ได้เสนอเงินส่วนตัวอีก 1 แสน เพื่อสมทบในการไล่ล่าดังกล่าว 

ถึงวันนี้ แม้จะยังไม่ได้ตัวฆาตกามก่อเหตุสะเทือนขวัญรายนี้ แต่เชื่อฝีมือตำรวจไทยจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็ววัน