ผบช.ภ.7 แจงละเอียดยิบ พฤติกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนต่อเนื่อง เผย 5 ปี ก่อเหตุแล้ว 10 คดี เป็นพวกกามวิปริต ชอบเหยื่อสูงอายุ ขาวอวบ ระดมมือดีลงพื้นที่ไล่ล่าและป้องกันเหตุ ส่วนที่บางคนที ชาวบ้านผวากันทั้งบาง เพราะเคยมีคนแก่ถูกฆ่า...

เมื่อวันที่ 26 ม.ค.58 ที่ห้องประชุม ตร.ภ.7 ชั้น 4 พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วรภัทร วัฒนวิสาร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต. สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช. ภ.7 พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.นครปฐม พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ธีรเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.อ.ชัชชาย คล้ายคลึง ผกก.สภ.สามพราน พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รอง ผกก.กสส.ภ. นครปฐม พร้อมชุดสืบสวน ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.นครปฐม ชุดสืบสวนจาก สภ.ดอนตูม สภ.บางเลน สภ.พุทธมณฑล สภ.นครชัยศรี สภ.สามพราน เข้าประชุมวางแนวทางการล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนต่อเนื่อง โดยปิดห้องประชุมเป็นเวลา 2 ชั่วโมง

หลังออกจากห้องประชุม พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า คดีข่มขืนต่อเนื่อง ขอเรียนว่าคดีนี้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความสนใจ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. มอบหมายให้ ผู้บังคับบัญชาลงมาอำนวยการ ทั้ง พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. นอกจากนั้น ยังมอบหมายให้ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี อดีตนายตำรวจ ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ ลงมาช่วยในการทำงานที่ภาค 7 ด้วย

ในส่วนของตำรวจภาค 7 ต้องขอเรียนว่า เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดมาตั้งแต่ปี 2553 เราเริ่มพบความผิดปกติตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 55 เกิดคดีแรกเป็นคดีข่มขืนหญิงสูงอายุในท้องที่ บางคนที จ.สมุทรสงคราม หลังจากนั้น 3 เดือน วันที่ 8 ต.ค. 55 ข่มขืนเหยื่อเป็นผู้สูงอายุในท้องที่บางคนที ต่อมาอีก 2 เดือน วันที่ 6 ธ.ค. 55 ข่มขืนเหยื่ออายุ 59 ปี ในท้องที่บางคนที ต่อมาวันที่ 10 ธ.ค. 55 ก็เกิดขึ้นอีกคดีลักษณะคล้ายกัน ใน อ.บางคนที นับเป็นรายที่ 4 ในท้องที่ บางคนที จ.สมุทรสงคราม

จากนั้นทาง ตร.ภาค 7 ได้รื้อคดีที่มีการประทุษกรรมคล้ายๆ กัน จนพบว่าก่อนหน้าปี 2555 มีคดีในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้น ในปี 2553 มีอีก 2 คดี ที่มีการก่อเหตุกับผู้สูงอายุ คือ เกิดขึ้นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 53 และคดีที่ 2 วันที่ 10 พ.ย. 53 ในท้องที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จากนั้นในปี 2556 ก็มีคดีเช่นเดียวกันเกิดขึ้นอีก เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 56 ในท้องที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม และมาวันที่ 11 มิ.ย. 56 ที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พอมาปี 2557 เกิดขึ้นอีก 1 ราย เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 57 ท้องที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม จนมารายล่าสุด เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 25 ม.ค. 58 ถ้านับจากปี 2553 จนปัจจุบันก็รวม 10 คดี

โดยใน 9 คดีแรก ฝ่ายสืบสวนของ ตร.ภ.7 ได้มีการดำเนินการกดดันสืบสวนทุกรูปแบบ ผลของการเข้าสืบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ ทราบว่า คนร้ายก่อคดีมาทั้งหมด 9 ครั้ง ที่ผ่านมา ได้ทิ้งหลักฐานไว้คือดีเอ็นเอ ซึ่งเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุได้ ดีเอ็นเอตรง ยืนยันได้ว่าเป็นการกระทำของคนๆ เดียวกัน สำหรับคดีที่ 10 ล่าสุด เกิดขึ้นท้องที่ สภ.นครชัยศรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 58 ขณะนี้ได้ให้ผู้เสียหายไปพบแพทย์ เพื่อเก็บดีเอ็นเอของอสุจิ นำมาเปรียบเทียบกับคดีที่ผ่านมาว่าตรงกันหรือไม่ หากตรงกันก็แสดงว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่ก่อเหตุเรื่อยมา ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังรอผลการตรวจดีเอ็นเอ คาดว่าผลจะมาภายใน 2 วันนี้ แต่จากพฤติกรรมตามที่ผู้เสียหายบอกเล่า ตรงกับพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายที่ก่อคดีมาแล้ว 9 คดี ทางตำรวจจึงเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ก่อน

พล.ต.ท.วีรพงษ์ ยังเผยต่อว่าในส่วนของตำรวจภูธรภาค 7 เราได้มีการแบ่งงานกันทำ ทีมที่ 1 คือ งานป้องกันไม่ให้เหตุเกิด ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 ซึ่งจะไปวางมาตรการและประสานงานการปฏิบัติ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ทีมที่ 2 สืบสวนเพื่อให้ได้ตัวคนร้าย มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 ประสานร่วมมือกับ รรท.สอบสวนกลาง และ ผบก.กองปราบ ทีมที่ 3 การสอบสวนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรภัทร วัฒนวิสาร รอง ผบช.ภ.7 มือกฎหมาย ควบคุมกระบวนการสอบสวนทั้ง 10 คดี ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประสานขอความร่วมมือจาก พ.ต.ต.หญิง แพทย์หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล ซึ่งเป็นจิตแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ มาเป็นที่ปรึกษา เพราะเชื่อว่าคนร้ายเป็นพวกกามวิปริต ซึ่งคุณหมอกำลังทำเว็บไดอารี่ เตือนภัยประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อในคดีข่มขืน

"จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของคนร้าย เราได้วิเคราะห์ทั้งความเหมือนและความต่าง ความเหมือนกันคือ เหยื่อเป็นหญิงสูงวัย อายุ 50 ปีขึ้นไป ลักษณะรูปร่างขาวอวบ อยู่บ้านคนเดียว ลักษณะบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านหลังเดี่ยวห่างจากชุมชน คนร้ายลงมือปฏิบัติการเพียงคนเดียว และเชื่อว่าก่อนลงมือปฏิบัติการนั้น ได้มีการลงมาดูลาดเลาก่อน เลือกลงมือในช่วงวันหยุดราชการ หรือตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันที่เกี่ยวเนื่องกับวันหยุด และพัฒนาการของคนร้ายนั้น ถ้าบ้านไหนมีสุนัขจะถูกวางยาเบื่อ และเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปเฉพาะเงินกับทองเท่านั้น ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์อย่างอื่น และจะไม่ทำร้ายจนเสียชีวิต หากไม่ขัดขืน ซึ่งในจำนวน 10 รายนี้ เหยื่อถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตาย เนื่องจากมีการขัดขืน 2 ราย คือ รายวันที่ 8 ม.ค. 55 ที่บางคนที จ.สมุทรสงคราม และวันที่ 11 มิ.ย. 56 ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม"

ผบช.ภาค 7 ยังกล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้คาดว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ภาค 7 แต่อุปสรรคของตำรวจคือ ลักษณะของคนร้ายนั้นเป็นคนโรคจิตผิดปกติ เช่น กลางวันอาจเป็นคนปกติ มีครอบครัว มีงานทำ การสืบสวนจึงซับซ้อน และละเอียดมากกว่า เพราะแรงผลักดันในการก่อเหตุจะเกิดขึ้น เมื่อคนร้ายพบกับเหยื่อที่เป็นหญิงสูงอายุ ลักษณะขาวอวบ กามวิปริตจึงเกิด ส่วนเรื่องของคนร้ายนั้น เราจะไม่ตัดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออก จะมองเป็นภาพกว้าง เป็นคนทุกกลุ่ม ขณะนี้สั่งตำรวจทุกหน่วยระดมตรวจสอบไม่ว่าจะเป็น คนตกปลา คนหาปลา คนงานก่อสร้าง และคนงานโรงงาน รวมถึงประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ให้ช่วยแจ้งเบาะแสของคนแปลกหน้า เพราะผู้นำชุมชนจะรู้ดีว่ามีใครแปลกหน้าเข้ามา และรู้จักคนในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ยังสั่งให้ด่านที่อยู่ตามชายแดนเพื่อนบ้านทาง จ.กาญจนบุรี ช่วยตรวจสอบด้วย ขณะนี้ตำรวจทำทุกวิถีทางเพื่อจะจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ เพราะถือเป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง หรือหากประชาชนที่พบเห็นคนแปลกหน้าที่มีภาพเหมือนภาพสเกตช์ในสื่อ ก็ขอให้แจ้งที่เบอร์ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

...

ด้าน สภ.นครชัยศรี ท้องที่เกิดเหตุข่มขืนหญิงสูงอายุรายล่าสุด พ.ต.อ.ธีรเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี เผยว่า หลังจากที่เหตุเกิดขึ้นแล้วตำรวจได้รับความร่วมมือจากประชาชนจำนวนมากกว่า 20 ราย ที่มีการแจ้งเบาะแสเข้ามา และส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบรับตัวมาทำประวัติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลเร่ร่อน

ขณะเดียวกัน นายพงสวัสดิ์ แดงสมบุญ ผู้ชำนาญการ จากสำนักงานกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางไปยังบ้านเกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมการสัตว์ทหารบก นครปฐม และฝ่ายปกครอง เพื่อสอบถามให้การช่วยเหลือ แต่ไม่พบใครอยู่ในบ้าน และบ้านปิด ทราบจากเพื่อนบ้านว่า บุตรชายและบุตรสาว ของผู้เสียหาย ได้พาแม่ไปพักอยู่ที่บ้านญาติต่างพื้นที่ เพื่อหลีกหนีปัญหาความวุ่นวาย และต้องการให้พักฟื้นจิตใจ ลืมเรื่องร้ายที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน ที่อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม พื้นที่เกิดเหตุข่มขืนหญิงชราถึง 5 ครั้ง ล่าสุดมีข่าวคนร้ายโรคจิตชอบข่มขืนคนแก่ออกวาละวาดอีกที่ จ.นครปฐม ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในละแวก ต.บางคนที และ ต.บางยี่รงค์ ที่เคยเกิดคดีสะเทือนขวัญมาแล้ว ต่างหวาดผวาว่าฆาตกรโรคจิตรายนี้จะหวนกลับมายังที่เดิมอีก และยังมีแม่ค้าที่ต้องออกจากบ้านในเวลาค่ำคืน นอกจากนี้ ทั้ง 2 ตำบล ชาวบ้านจะปลูกบ้านอยู่ในสวนมะพร้าว ตั้งอยู่ห่างไกลกัน ทำให้อาจถูกประทุษร้ายได้ง่าย

พ.ต.อ.พิทักษ์ รัตนสุภา ผกก.สภ.บางคนที กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวชาวบ้านก็เริ่มหวาดผวากับโจรโรคจิตที่ชอบข่มขืนคนแก่ ซึ่งในสมุทรสงคราม 2 ตำบลนี้มีคดีเกิดขึ้นถึง 4 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน และมีคนแก่ต้องสังเวยชีวิตไป 1 ศพ แล้วเรื่องก็หายเงียบไปหลายปี จนมาเกิดเป็นข่าวอีกครั้งที่นครชัยศรี ทางตำรวจจึงได้ออกตรวจในพื้นที่อย่างเข้มข้นขึ้นเพื่อระวังเหตุร้าย ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ พร้อมให้ตรวจสอบอุปกรณ์เสริมที่ได้ติดไว้ตามบ้านที่มีคนแก่อยู่ตามลำพังว่ายังใช้การได้ดีหรือไม่ เช่น กริ่ง และตู้แดง ของสายตรวจที่ติดตั้งเพิ่มไว้ในที่เปลี่ยว โดยให้ออกตรวจทั้งกลางวันและกลางคืน.