สงบศึกชั่วคราว กลุ่มลูกศิษย์วัดกะทิงยอมให้รถผ่านสามแยกขึ้นไปนมัสการพระบาทพลวง เขาคิชฌกูฏหลังเจรจากันจนเป็นที่พอใจ แต่ยังมีอีก 3 ข้อหลักที่ยังไม่ได้ข้อยุติต้องถกกันต่อ ขณะที่แม่ค้าบอก คนที่มาแสวงบุญเขาไม่ได้วิตกกังวลอะไร...   

หลังจากคณะลูกศิษย์วัดกะทิงยอมเปิดถนนให้ประชาชนสามารถขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ได้ตามปกติ ภายหลังจากที่นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.จันทบุรี ได้เรียกตัวแทนทุกฝ่ายเจ้าเจรจาจนได้ข้อตกลงร่วมกัน ตั้งแต่เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การยินยอมเปิดถนนทางขึ้นเขาพระบาทพลวงทั้งหมดในพื้นที่ ม.4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี รายงานว่า มีข้อตกลงที่เจรจาจนตัวแทนวัดกะทิงยอมเปิดเส้นทางขึ้นเขาพระบาทพลวงส่วนหนึ่ง เนื่องจากเป็นห่วงภาพลักษณ์ของจังหวัด รวมถึงอีก 2 เรื่อง คือ คิวรถขึ้นเขาของวัดกะทิง ที่มีอยู่จำนวน 22 คัน ในการวิ่งรับส่งผู้แสวงบุญ ทางฝ่ายวัดกะทิงได้ขอวิ่งขึ้นเขาแบบรวดเดียว โดยไม่มีการเปลี่ยนคิวให้กับรถคิวอื่น ซึ่งที่ประชุมยินยอมทำตามข้อตกลง ต่อมาคือ เรื่องของสัดส่วนที่มีการพูดคุยตกลงกัน 3 ฝ่ายประกอบด้วย วัดกะทิง คณะสงฆ์ และวัดพลวงเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้วัดกะทิงจะมีสัดส่วนจากการจัดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงปีนี้ ตามเดิม โดยจะนำเงินไปทำนุบำรุงวัดกะทิง ตลอดจนจัดสถานที่จัดเก็บสรีระสังขารของท่านพ่อเขียน อดีตเจ้าอาวาสของวัด เพื่อเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าสักการะ

หลังการพูดคุยเจรจากันเสร็จสิ้น ทางฝ่ายวัดกะทิงพอใจ และยอมเปิดถนน ให้ขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทได้ตามปกติตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนข้อเสนอ 3 ข้อ ที่เรียกร้องไปก่อนหน้านี้ จะยังคงมีการพูดคุยและหาทางออกกันต่อไป

...

ขณะที่นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.จันทบุรี กล่าวว่า การเจรจาหาข้อยุติปัญหาเขาพระบาทพลวง ระหว่างวัดกะทิง กับคณะสงฆ์ และวัดพลวง ในเรื่องผลประโยชน์ที่ได้จากการจัดงาน จะยังคงมีต่อไปโดยเฉพาะข้อเสนอหลัก 3 ข้อ คือ 1. การจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาท ปีนี้ ต้องร่วมมือกันทั้ง 3 ฝ่าย ทางคณะสงฆ์ต้องโอนเงินเข้ากองทุนที่เป็นกองกลาง เพื่อใช้ในการจัดซื้อสิ่งของขึ้นไปจัดงานบนยอดเขาจำนวน 10 ล้านบาท 2.เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 3 ฝ่าย ร่วมบริหารจัดการและตรวจสอบเงินที่ได้จากการจัดงาน และ 3.ต้องการให้ยุบรวมคิวรถเป็นคิวเดียว และมีกองอำนวยการอยู่ที่วัดกะทิง

ทั้งนี้ ทางจังหวัด โดยสำนักงานพระพุทธศาสนา พร้อมคณะสงฆ์ได้เตรียมเปิดการเจรจาหาข้อยุติ โดยนัดประชุมพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ส่วนเรื่องการให้ปิดงานเทศกาล นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ ปีนี้ ไปก่อน 15 วัน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาหาข้อยุติ ขณะนี้คงยังไม่จำเป็น เนื่องจากทุกฝ่ายเริ่มท่าทีที่ผ่อนปรนลง

ขณะที่บรรยากาศ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณสามแยกปากซอยบ้านพลวง 2 ม.4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นทางผ่านขึ้นเขาพระบาทพลวง และเป็นจุดที่กลุ่มลูกศิษย์วัดกะทิงใช้เป็นจุดปิดถนนหลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีการแถลงข่าวร่วมกันในการยุติการปิดถนน พบว่า มีกลุ่มลูกศิษย์วัดกะทิง ประมาณ 20-30 คน นั่งพักผ่อนอยู่ภายในเต็นท์ และรอบบริเวณ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารายงานข่าว และสังเกตการณ์ โดยไม่ได้นำสิ่งกีดขวางใดๆ มาวางขวางบนถนน

ส่วนที่ลานจอดรถด้านหน้าวัดพลวง ซึ่งเป็นที่คิวรถ และทางผ่านขึ้นไปบนเขาพระบาทพลวง พบว่ามีพุทธศาสนิกชน นักแสวงบุญ ประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางขึ้นเขากันค่อนข้างบางตา แต่ยังมากกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา ด้านร้านค้าที่เปิดจำหน่าย พ่อค้าแม่ค้า บางรายยังตัดสินใจที่จะไม่เปิดร้าน เนื่องจากยังไม่มั่นใจสถานการณ์ แม้จะไม่มีการปิดถนนกันแล้วก็ตาม ขณะที่ร้านค้าที่เปิดจำหน่ายส่วนใหญ่ บอกว่า การค้าขายเริ่มขยับตัวในทางที่ดีขึ้น 

นางนุชนาฏ ม่วงโพธิ์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านค้า ที่หน้าคิวรถวัดพลวง กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่าย หรือผู้เกี่ยวข้อง เร่งเจราจาหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว เพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ที่จะเดินทางมาร่วมงาน รวมทั้งส่งผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ จ.จันทบุรี

"แต่จากการที่ได้พูดคุยกับลูกค้า จึงทำให้ทราบว่า คนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาร่วมนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงในปีนี้ ไม่ได้รู้สึกวิตก หรือรู้สึกกลัวกับเหตุพิพาทกันของผู้จัดงาน และอยากให้พุทธศาสนิกชนมาร่วมงานประเพณีในปีนี้ให้มากๆ เหมือนเดิม" นางนุชนาฏ กล่าว.