ลูกศิษย์วัดกระทิงยังยื้อปิดถนนทางขึ้นไปนมัสการพระบาทเขาคิชฌกูฏ หวิดปะทะกับเจ้าถิ่นที่ออกมาเผชิญหน้าเพราะเดือดร้อนสัญจรไม่ได้ ผวจ.เร่งทุกฝ่ายเจรจา ก่อนที่ชื่อเสียงของจังหวัดจะเสียหายไปมากกว่านี้ พร้อมเสนอหยุดจัดงาน 15 วัน....
ความขัดแย้งจากการจัดงานประเพณีนมัสการพระบาทพลวงหรือพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ระหว่างคณะสงฆ์ จ.จันทบุรี กับคณะของวัดกระทิง ที่มีการถมดินปิดถนนทางขึ้นสู่ยอดเขายังไม่ลดลง และดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นอีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 21 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่บริเวณ ถนนทางเข้าเขาพระบาทพลวง ปากซอยบ้านพลวง 2 ม.4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ชาวบ้านฝั่งวัดกระทิงจาก 4 หมู่บ้าน ประมาณ 200 คน ยังคงปักหลักปิดถนนต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
ทั้งนี้ ชาวบ้านซึ่งไม่มีตัวแทนหรือแกนนำ อ้างว่า คณะสงฆ์ที่เป็นผู้ร่วมจัดงานประเพณีนมัสการพระพุทธบาทพลวง ปี 2558 ไม่ทำตามข้อตกลงร่วมกันของทางจังหวัดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา คือ 1. การจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทปีนี้ ต้องร่วมมือกันทั้ง 3 ฝ่าย ทางคณะสงฆ์ต้องโอนเงินเข้ากองทุนที่เป็นกองกลาง เพื่อใช้ในการจัดซื้อสิ่งของขึ้นไปจัดงานบนยอดเขาจำนวน 10 ล้านบาท
...
2.ต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 3 ฝ่าย ร่วมบริหารจัดการและตรวจสอบเงินที่ได้จากการจัดงานนมัสการรอยพระบาทพลวง ปัจจุบันไม่มีการความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งแม้ว่าเมื่อคืนวานนี้ (20 ม.ค.) จะมีการเจรจา 3 ฝ่าย ระหว่าง จ.จันทบุรี โดยนายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผวจ.จันทบุรี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุล ผบก.ภ.จันทบุรี นายเฉลิมพล ศักดิ์คำ ตัวแทนคณะสงฆ์ และนายภาณุ วิทูธีรศานต์ กำนัน ต.พลวง ตัวแทนวัดกระทิง แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
3.คิวรถบริการขนของฟรี ที่มีแบบซ้ำซ้อนให้ยุบรวมเป็นคิวเดียว และมีกองอำนวยการอยู่ที่วัดกระทิง แต่เมื่อเปิดงานนมัสการไป 2 วัน ทางคณะสงฆ์มิได้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่ตกลงกันก่อนหน้านี้
นายภาณุ วิทูธีรศานต์ กำนัน ต.พลวง ตัวแทนวัดกระทิง กล่าวว่า จากการที่ไม่มีตัวแทนคณะสงฆ์เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยแก้ปัญหา ทำให้ชาวบ้านวัดกระทิงยังคงปักหลักชุมนุมปิดถนนต่อไปจนกว่าจะมีการเจรจาหาทางออกร่วมกัน ซึ่งทางชาวบ้านวัดกระทิงขอแค่ให้คณะสงฆ์ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันที่มีขึ้นวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านก็พร้อมที่จะเปิดถนนให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาพระบาทพลวงได้
ผู้สื่อข่าวรายงาว่า ในวันนี้ (21 ม.ค.) กลุ่มชาวบ้านลูกศิษย์วัดกระทิง ได้ขยายเพิ่มปิดถนนทางเข้าวัดพลวงอีก 1 เส้นทาง อยู่ห่างจากจุดเดิมออกไปอีกประมาณ 1 กม. ส่งผลให้ทางคณะกรรมการวัดพลวง ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เลี่ยงไปใช้ถนนสายวังแซ้ม-บ้านปึก และถนนทางเกวียน ม. 4 เป็นเส้นทางขึ้นเขาแทนเส้นทางเดิมที่ถูกปิด
จนกระทั่งเวลา 14.00 น.ชาวบ้าน ม. 4 ต.พลวง เจ้าของพื้นที่ ได้รวมตัวกันประมาณ 200 คน ปักหลักอยู่ทางฝั่งตรงข้ามของกองดินที่ใช้ปิดถนนห่างจากเต็นท์ของกลุ่มวัดกระทิงประมาณ 200 เมตร เพื่อเรียกร้องให้ชาวบ้านวัดกระทิงถอยร่นออกจากพื้นที่ เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนเรื่องการสัญจรไปมาของชาวบ้าน ม. 4 ทำให้เกิดการเผชิญหน้า และเหตุการณ์ส่อไปในทางอาจจะเกิดความรุนแรงจากการปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ต้องจัดกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ดูแลอย่างเข้มข้น
ต่อมา พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จันทบุรี เป็นตัวแทนของจังหวัด เข้าเจรจากับชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้หลีกเลี่ยงการปะทะกันที่จะนำซึ่งความสูญเสีย อีกทั้งไม่อยากให้ชื่อเสียงของ จ.จันทบุรี เสื่อมเสียไปมากกว่านี้ โดยขอให้แกนนำของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเจรจาหาทางออกของปัญหาร่วมกัน ซึ่งนายกิตติศักดิ์ ศรีบุรุษ ผญบ.ม.2 ได้เป็นตัวแทนวัดกระทิง นายปริภัทร หิรัญ สมาชิกสภาเทศบาล ต.พลวง เป็นตัวแทนชาวบ้าน ม.4 ต.พลวง เข้าหารือ
ในเบื้องต้นได้ข้อสรุป คือ จากข้อเรียกร้องของชาว ม. 4 ต.พลวง ที่ขอให้ชาวบ้านวัดกระทิงถอนการชุมนุมออกจากการปิดถนนในพื้นที่นั้น ชาวบ้านวัดกระทิงยอมรับในข้อเสนอดังกล่าว โดยยอมถอยร่นขยับออกไปจากบริเวณสามแยกทางเข้าเขาพระบาทพลวง ไปอยู่ในพื้นที่ ม. 2 ต.พลวง แทน ห่างจากจุดเดิมประมาณ 2 กม.ซึ่งก็ช่วยให้บรรยากาศคลี่คลายลงได้ระดับหนึ่ง
...
อย่างไรก็ตาม การปักหลักชุมนุมของชาวบ้านวัดกระทิง ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อกดดันคณะสงฆ์ให้ออกมาเจรจาแก้ไขปัญหาการจัดงานประเพณีนมัสการพระพุทธบาทพลวง และผู้ชุมนุมมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยมีการระดมพลังประชาชนผู้ศรัทธาในท่านพ่อเขียนจากต่างจังหวัด เข้ามาสมทบในคืนนี้
ขณะที่ นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.จันทบุรี ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.จันทบุรี ประสานคณะสงฆ์เพื่อเปิดการเจรจาหาข้อยุติ โดยเบื้องต้นทางจังหวัด ได้มีหนังสือแจ้งเจ้าคณะจังหวัด ให้ประชุมพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้องก่อนประชุมร่วม 3 ฝ่าย พร้อมกับมอบหมายให้ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รอง ผวจ.จันทบุรี พร้อมด้วย ผบก.ภ.จันทบุรีและตัวแทนทหาร เข้าพื้นที่ไปพบกับชาวบ้านที่ชุมนุมปิดถนน ขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบ ไม่ละเมิดหรือทำผิดกฎหมายที่รุนแรงมากไปกว่านี้ ขอให้ใจเย็นๆ รอการแก้ไขของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และสุดท้ายขอให้ปิดงานเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏปีนี้ไปก่อน 15 วัน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาหาข้อยุติ
ในส่วนของการเดินทางเขาไปนมัสการพระบาทพลวงของพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาต้องการไปแสวงบุญ ได้มีคิวรถวัดพลวงที่สามารถเดินทางขึ้นไปได้ แต่ค่อนข้างเงียบเหงา ขณะที่ประชาชนที่รู้เส้นทาง จะนำรถส่วนตัววิ่งอ้อมเข้ามาจอดที่ลานวัดพลวง แล้วขึ้นรถที่ให้บริการไปบนเขา แต่ก็ไม่คึกคัก ร้านค้าที่เปิดจำหน่าย พ่อค้า แม่ค้าก็เริ่มไม่มั่นใจเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งเจรจาหาข้อยุติโดยเร็ว เพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงาน ร่วมทั้งส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของ จ.จันทบุรี