จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ ตร.โดนข่มขู่ ต้องโร่แจ้งความ วอน ตร.ด้วยกันเคลียร์ปัญหา เมื่อบรรดาลูกศิษย์วัดใช้ปืนยิงขู่ เหตุเพราะเมียเกิดกรณีพิพาทกับชาวบ้าน แค่เรื่องเครื่องเสียงวัดส่งเสียงดัง จนก่อความรำคาญ...
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ม.ค. พ.ต.ท.ณรงค์ แสนเกื้อ สารวัตรเวร สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุถูกยิงบ้านได้รับความเสียหายที่บ้านเลขที่ 32/139 ม.2 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง ภายในหมู่บ้าน ว.แลนด์เฮาส์ พื้นที่ ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง เบื้องต้นสอบถามไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.สราวุธ จงจิต รอง ผกก. หน.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จว.ตรัง อีกจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีบริเวณ ลักษณะบ้านเป็นทรงเรือนไทยแบบประยุกต์ อยู่สุดซอยหมู่บ้าน ว.แลนด์เฮาส์ เจ้าของบ้าน ทราบชื่อ ด.ต.เอกชัย จริงจิตร ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง และนางสาวกิตติยา ภักดีโชติ ภรรยา ที่เคยมีกรณีพิพาทกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.โคกหล่อ ทราบชื่อ ด.ต.เอกชัย จริงจิตร ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง และ น.ส.กิตติยา ภักดีโชติ ภรรยา
...
จากสอบสวน ทราบว่า น.ส.กิตติยา ภักดีโชติ ที่เคยมีกรณีพิพาทกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.โคกหล่อ หลังถูกชาวบ้านกล่าวหาว่า น.ส.กิตติยา ได้เข้าไปพบพระครูอดุลคุณาธาร เจ้าอาวาสวัดโคกหล่อ เพื่อให้มีการจัดการปัญหาเครื่องเสียงจากวัดส่งเสียงดัง ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับคนที่อาศัยในหมู่บ้าน จนเหตุทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ เพราะเข้าใจว่าเป็นการกระทำที่ลบหลู่และไม่ให้เกียรติพระครูอดุลฯ จนมีการกดดันให้ ด.ต.เอกชัย และภรรยา ต้องออกมาขอขมาเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา
ด.ต.เอกชัย ให้การว่า เมื่อกลางดึก เวลา 02.00-03.00 น. ขณะที่ตนกำลังนอนอยู่ภายในบ้านกับแม่ ได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด แต่คิดว่าน่าจะมีคนมาจุดพลุใกล้บ้าน เพราะมีการจุดพลุกันอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าและขึ้นไปเปิดประตูห้องนอนชั้นสอง พบร่องรอยของคมกระสุน เข้าที่หลังคาบ้านและประตูห้องนอน จึงได้โทรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด.ต.เอกชัย บอกอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. เป็นต้นมา ตนรู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน เพราะมีคนมาจุดประทัดบริเวณหลังบ้าน และมีรถยนต์มากลับรถที่หน้าบ้านของตน ซึ่งคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับมาคุกคามข่มขู่ไม่ให้ตนอยู่เป็นสุข ส่วน น.ส.กิตติยา ภรรยา นั้นย้ายไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งที่ อ.ห้วยยอด เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นอีก แต่พอมาวันนี้ ตนกลับโดนกระทำอีก จึงทนไม่ได้แล้วที่จะอยู่นิ่ง เพราะที่ผ่านมา ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด ไม่เคยคิดจะลบหลู่พระครูอดุลฯ และไม่เคยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมกับท่านด้วย เพราะทางบ้านก็ให้ความเคารพอยู่เสมอ แต่ชาวบ้านที่ไปฟังข่าวลือก็เชื่อกันไปต่างๆ นานา จนทำให้เกิดการเข้าใจผิด หากชาวบ้านที่เข้าใจว่าตนว่ากระทำการใดๆ ที่ไม่เหมาะสมกับท่านพระครูอดุลฯ ก็ขอให้นำหลักฐานออกมาแสดงต่อสังคมด้วย ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียง หรือคลิปวิดีโอที่เคยอัดไว้ ก็เอาออกมาให้สังคมได้รับรู้ด้วย เพราะตอนนี้ตนและครอบครัวโดนสังคมเข้าใจผิดอยู่เพียงฝ่ายเดียว จึงอยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับตนและครอบครัวด้วย
"อยากให้ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง นัดผู้นำชุมชนมาพูดคุยกันอีกครั้งต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะตนเชื่อแน่ว่า การกระทำในครั้งนี้ต้องมีคนรับรู้อยู่บ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้จะให้ตนอยู่เฉยๆ ไม่ได้แล้ว เพราะถูกคุกคามอย่างหนัก รู้สึกชีวิตจะไม่ปลอดภัยเข้าทุกวัน จึงต้องขอให้มีการนัดเพื่อพูดจาหารือและตกลงกันใหม่ ว่าครอบครัวของตนจะไม่ก่อปัญหาซ้ำอีก และอยากขอให้ทางฝั่งชาวบ้านก็อย่าได้มาข่มขู่รุกรานกันอีกเลย" ด.ต.กล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อติดตามเจ้าของกระสุนดังกล่าวมารับทราบและดำเนินคดีต่อไป.