ลูกหลานชาวอุดรธานีร่วมพิธีวันระลึกการก่อตั้งเมือง ลุเข้าสู่ปีที่ 122 สตรีกว่า 2 หมื่นคนแต่งกายด้วยเสื้อสีแสด ทัดดอกทองกวาวร่วมรำถวาย ‘กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม’ ผู้ก่อตั้งเมือง รวมถึง ‘ตุ๊กกี้ ชิงร้อย’ ที่เป็นชาว อ.วังสามหมอ...
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ม.ค.58 ที่อนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เทศบาลนครอุดรธานี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเป็นประธานในพิธีวันระลึกการก่อตั้งเมืองอุดรธานี ลุเข้าสู่ปีที่ 122 เพื่อน้อมรำลึกถึง พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งจังหวัดอุดรธานี โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผวจ.อุดรธานี นำข้าราชการทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน ทุกหมู่เหล่า ราชนิกุล “ทองใหญ่” รวมถึง น.ส.สุดารัตน์ บุตรพรหม หรือตุ๊กกี้ ร่วมในพิธี
ทั้งนี้ ในช่วงเช้า ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารพระสงฆ์ 123 รูป ประธานโดยราชนิกุล “ทองใหญ่” ประกอบด้วย พลอากาศเอก ม.ร.ว.ศิริพงษ์ ทองใหญ่ ม.ร.ว.นับทอง ทองใหญ่ ม.ร.ว.ทองน้อย ทองใหญ่ และผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมถวายพุ่มดอกไม้สด ถวายเครื่องสักการะ และประชาชนได้นำผลไม้มาร่วมถวายสักการะจำนวนมาก ประธานในพิธีอ่านประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ต้นสกุล “ทองใหญ่” เสร็จแล้วเป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญเมืองอุดรธานี นักศึกษานาฏศิลป์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี “รำบายศรีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง”
...
จากนั้น นางพูลทรัพย์ สิงห์ศักดา นายกเหล่ากาชาด จ.อุดรธานี นำข้าราชการสตรี สตรีชาวอุดรธานี ซึ่งรวมถึง น.ส.สุดารัตน์ หรือ ‘ตุ๊กกี้ ชิงร้อย’ ซึ่งเป็นชาวอำเภอวังสามหมอ จ.อุดรธานี สวมเสื้อสีแสดผ้าซิ่นหมี่ ทัดดอกทองกวาว ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดอุดรธานี ร่วมรำบวงสรวงเข้าร่วมรำบวงสรวง พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ร่วมกับสตรีชาวอุดรธานี กว่า 25,000 คน ทำให้ถนนบริเวณ 5 แยกวงเวียนอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ เต็มไปด้วยนางรำ ซึ่งมีความเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว ขณะที่นางรำกำลังรำบวงสรวงตามจังหวะเพลงอย่างตั้งใจอยู่นั้น เครื่องเสียงเกิดสะดุดหยุดไป 2 ครั้ง แต่นางรำก็ไม่ได้สะดุดหรือหยุดตาม ต่างก็ช่วยกันร้องเพลง และรำต่อไป
สำหรับพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็น พระราชโอรสองค์ที่ 15 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 กับเจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2399 มีพระนามเดิมว่า “พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่” พระองค์ทรงเป็นราชสกุล “ทองใหญ่”
เมื่อรัตนโกสินทร์ศก 112 ซึ่งตรงกับปีพุทธศักราช 2436 ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ไทยเกิดกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับประเทศฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบเข้ามาปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยาและบีบบังคับให้ไทยยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง อันได้แก่ บริเวณประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบันให้แก่ฝรั่งเศส โดยไทยจะต้องไม่มีกองกำลังทหาร ในรัศมี 25 กม. บนฝั่งฟากตะวันตกของแม่น้ำโขง ซึ่งในขณะนั้น พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์ ผู้สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือมีกองบัญชาการตั้งอยู่ ณ เมืองหนองคาย จำเป็นต้องย้ายที่ตั้งกองบัญชาการลงมาทางใต้
"เมื่อวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2436 ทรงเห็นบ้านหมากแข้ง มีทำเลและชัยภูมิเหมาะสม ที่จะตั้งกองบัญชาการ สามารถใช้เป็นศูนย์กลางบัญชาการดูแลปกครองหัวเมืองโดยรอบได้ จึงทรงตั้งกองบัญชาการแห่งใหม่ขึ้น ณ ที่แห่งนี้ การตัดสินพระทัยของพระองค์แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ และพระวิริยะอุตสาหะทรงอดทนต่อความตรากตรำลำบาก มิได้ท้อถอย ประกอบกับทรงมีพระเนตรอันยาวไกล “บ้านหมากแข้ง” จึงได้พัฒนาความเจริญรุ่งเรืองมาเป็นจังหวัดอุดรธานีในปัจจุบัน"
...