14 ศิลปินในดวงใจ ร่วมคอนเสิร์ตเพลงคู่ครั้งแรก ใน “เทศกาล หวานเพลงรัก” จัดโดย มูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 2 รอบ นำรายได้สมทบทุนอนุรักษ์และบูรณะพระราชวังพญาไท
เมื่อบ่ายวันที่ 15 มกราคม 58 พลโทกฤษฎา ดวงอุไร กรรมการเลขานุการมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ในพระอุปถัมภ์ฯ ประธานแถลงข่าวการจัดคอนเสิร์ตพิเศษ “เทศกาล หวานเพลงรัก” เพื่อนำรายได้สมทบทุนการอนุรักษ์และบูรณะพระราชวังพญาไท อายุ 100 ปี โบราณสถานแห่งชาติ อันเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศ และต้องใช้ทุนในการบูรณะจำนวนมาก ที่พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท กทม.
...
ส่วนรูปแบบคอนเสิร์ต เป็นงานย้อนวันหวานไปกับเพลงรักซึ้งๆ หลากยุคหลายอารมณ์ และเป็นการจัดคอนเสิร์ตเพลงคู่ ถึง 7 คู่ 14 ศิลปินในดวงใจหลายรุ่นทั้ง สุเทพ วงศ์กำแหง คู่กับสวลี ผกาพันธุ์, โอ-ชัยรัตน์ เทียบเทียมคู่กับ ก้อย-พรพิมล ธรรมสาร, สุเมธ องอาจ คู่กับ อุ้ย-รวิวรรณ จินดา, อ๊อด-โอภาส ทศพร คู่กับอิ๋ว-พิมพ์โพยม เรืองโรจน์, สุชาติ ชวางกูร คู่กับ นรีกระจ่าง คันธมาส, จี๊ป-วสุ แสงสิงแก้ว คู่กับ บีม-จารุวรรณ บุญญารักษ์ และ อาร์ท-พลกฤษณ์ ถมยา คู่กับ ลูกหว้า-พิจิกา จิตตะปุตตะ พร้อมกับวง ”กาญจนะผลิน” อีกด้วยโดยจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 19.00 น. และวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สามารถติดต่อซื้อบัตรได้ที่ Thaiticketmajor.com ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา, โทร.02-262 3456
ด้านพลโทกฤษฎา กล่าวถึงรายละเอียดการอนุรักษ์และบูรณะพระราชวังพญาไทว่า เป็นอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีอายุนับร้อยปี และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 และได้ถูกใช้งานมาตลอด ย่อมเกิดความเสื่อมโทรมตามกาลเวลา สำหรับการบูรณะพระราชวังจะต้องใช้ช่างที่มีฝีมือประณีต และต้องมีการค้นคว้าถึงรูปแบบเดิมของอาคารรวมถึงห้องต่างๆ นั้น จะต้องใช้งบประมาณในการบูรณะจำนวนมาก เนื่องจากพระราชวังพญาไทเป็นมรดกอันล้ำค่าของประเทศชาติ คนไทยทุกคนน่าจะมีส่วนร่วมในการช่วยดูแลรักษาทำนุบำรุง และฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพดีดังเดิม เพื่อเป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติยศในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงมีพระอัจฉริยะภาพทั้งในด้านการเมือง การปกครอง การศึกษา การดนตรี และ ศิลปะแขนงต่างๆ และเผยแพร่พระราชวังพญาไทให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้นด้วย
ส่วนนางจีระนันท์ ตัวแทนคณะผู้จัดงาน กล่าวถึงความสำคัญในการอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ว่าเป็นมรดกสถาปัตยศิลป์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม ทั้งยังมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์การละคร ดนตรี กวี เพลง เนื่องจากเมื่อร้อยกว่าปีก่อน รัชกาลที่ 6 ทรงเป็นผู้บุกเบิกศิลปะการแสดงยุคใหม่ของไทยตามแนวสากลนิยม การจัดคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนี้ เพื่อระดมทุนอนุรักษ์และบูรณะพระราชวังให้เป็นศรีสง่าของชาติสืบไป เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมสมทบทุนและเสพสุนทรีแห่งเสียงเพลงจาก 14 ศิลปิน อย่างทั่วถึง
...
สำหรับนายจิรวุฒิ หรือ ครูออด ผู้ควบคุมวงกาญจนะผลิน และ ผู้ดูแลคอนเสิร์ตในส่วนการแสดงทั้งหมด กล่าวถึงคอนเสิร์ตในครั้งนี้ว่า นอกจากรายได้จะนำไปใช้เพื่อการอนุรักษ์พระราชวังพญาไทแล้ว ยังถือเป็นการอนุรักษ์และสืบสานเพลงไทย แต่ละเพลงมีความไพเราะและอยู่ในความทรงจำ ของคนทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่รุ่นพ่อ-แม่รวมถึงคนรุ่นใหม่ โดยศิลปินในคอนเสิร์ตมีถึง 3 รุ่น 3 สมัย เป็นตัวแทนของผู้ฟังทุกรุ่นเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นการซึมซัมสัมผัสกับเพลงรักในหลากหลายอารมณ์และรูปแบบ ทั้งสมหวัง ผิดหวัง ไปจนถึงความรักในรูปแบบของ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะได้ร่วมรำลึกเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นปีวาระโอกาสที่ดีอย่างมาก เพราะเป็นโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ของสมเด็จพระเทพฯ ในวันที่ 2 เมษายน ปีนี้ด้วย”