น่าเวทนา สาว 17 ป่วยโรคต่อมน้ำเหลืองเป็นพิษ ขาบวมโต 2 ข้าง ทนทุกข์ทรมานนาน 3 ปี ต้องใช้ออกซิเจนวันละถัง ไปรักษาตัวที่ รพ.เดือนละครั้ง เสียค่าใช้จ่ายสูง เปิดใจอยากหายจากอาการที่เป็นอยู่ ใฝ่ฝันอยากเป็นแพทย์ ...
วันที่ 15 ม.ค. ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านค้อน้อย หมู่ 5 ต.กุดไห อ.กุดบาด จ.สกลนคร ว่า มีผู้ป่วยเป็นหญิงพิการ อายุ 17 ปี ได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการป่วยขาโต ไม่สามารถเดินได้มานานร่วม 3 ปี และกำลังได้รับความเดือดร้อนจากค่ารักษาพยาบาล ต้องการขอความช่วยเหลือจากสังคม จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล นายอำเภอกุดบาก
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ 192 ม.5 บ้านค้อน้อย ต.กุดไห พบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น บริเวณใต้ถุนบ้าน พบนางพุทธ ทิพย์คำมี อายุ 48 ปี ป้าของ น.ส.สุดารัตน์ ศิหิรัญ อายุ 17 ปี หรือ "น้องกิ่งไผ่" ที่ป่วยด้วยโรคต่อมน้ำเหลืองเป็นพิษ หรือ "โรคคอแล่ม" ส่งผลให้ขาทั้ง 2 ข้างบวม โตเท่าเสาบ้าน เดินไปไหนไม่ได้ ต้องนอนนิ่งใช้ออกซิเจนช่วยหายใจ เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น โดยมีเพื่อนบ้าน แวะเวียนมาให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากน้องกิ่งไผ่เป็นคนเรียบร้อย นิสัยดี พูดเก่ง จึงเป็นที่รักของทุกคน
น้องกิ่งไผ่ เล่าว่า เมื่อปี 2555 ขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ ร.ร.กุดบากพัฒนาศึกษา ตนเริ่มมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลีย เมื่อรับประทานอาหารแล้วก็อาเจียนออกมา จากนั้นเริ่มมีอาการหนักขึ้น จึงเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.กุดบาก ซึ่งแพทย์ยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ จึงได้ส่งตัวไปยัง รพ.สกลนคร พบว่าตนมีอาการน้ำท่วมปอด จึงส่งตัวต่อไปยัง รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อทำการผ่าตัดนำน้ำออกจากปอด และต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 5 เดือนเต็ม ก่อนจะกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน
...
ทั้งนี้ ตอนนั้นคิดว่าอาการจะดีขึ้น แต่ปรากฏว่าพอกลับมาอยู่บ้าน ตนรู้สึกว่าบริเวณขาทั้ง 2 ข้างมีอาการบวมและโตขึ้นเรื่อยๆ จึงเดินทางกลับไปตรวจอีกครั้ง พบว่าตนเป็นโรคต่อมน้ำเหลืองเป็นพิษ ด้วยอาการศัพท์ทางแพทย์เรียกว่า "โรคคอแล่ม" และตนเป็น 1 ใน 5 คนไทย ที่ป่วยด้วยโรคนี้ แพทย์จึงไม่สามารถจะวินิจฉัยอาการที่ป่วยนี้อย่างไร
น้องกิ่งไผ่ เล่าต่อว่า แพทย์ระบุให้ประคับประคองอาการป่วย จากโรคข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับตน คือ ปอดไม่แข็งแรง หายใจลำบาก ต้องใช้ออกซิเจนช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา และระวังอาการป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งจะทำให้อ่อนเพลียและทรมานมาก นอกจากนี้ ยังให้ป้องกันบาดแผลที่เกิดจากบริเวณขาที่บวมเป่ง เมื่อมีอาการแทรกซ้อนขึ้นมาพร้อมกัน และต้องรีบเดินทางไปรักษาทันที ซึ่งมีหลายครั้งที่เกือบไม่รอดและไปไม่ถึงโรงพยาบาล เพราะระยะทางไกลจาก จ.สกลนคร ถึง จ.ขอนแก่น เกือบ 300 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ตนได้แต่นอนนิ่งอยู่กับที่ แม้ขาจะขยับไปมาได้ แต่ก็ลุกเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ ทำให้ทรมานมาก ต้องเป็นภาระให้กับพ่อแม่และญาติพี่น้องอย่างมาก ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ตนอยากหายจากโรคที่เป็นอยู่ เพราะถ้าหายแล้ว อาจจะช่วยเหลือสังคมได้ไม่มากก็น้อย ถ้ามีผู้ใจบุญหยิบยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือก็จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ทางด้าน นายทองสา ศิหิรัญ อายุ 48 ปี บิดาของน้องกิ่งไผ่ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านค้อน้อย กล่าวว่า น้องกิ่งไผ่เป็นลูกสาวคนเดียว ต้องการให้ลูกจบการศึกษาสูงๆ แต่ต้องมาล้มป่วย อย่างอาการที่เห็น และตลอดระยะเวลาทั้ง 3 ปี ตนใช้เงินที่เคยอดออม ทั้งเงินประจำตำแหน่ง และเงินที่ภรรยาไปรับจ้างมา หมดไปกับการรักษาน้องกิ่งไผ่ เพราะมีลูกสาวคนเดียว ต้องคอยให้กำลังใจลูกว่าอย่าท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะได้รับคำตอบมาว่า อาจจะรักษาไม่หายขาด และกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต แต่ก็พยายามบอกลูกเสมอว่า พ่อแม่และญาติพี่น้องจะดูแลให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์ ให้ลูกสาวกลับมาเป็นปกติ เพราะสงสารลูก ที่ต้องการเรียนหนังสือสูงๆ ฝันว่าอยากเป็นแพทย์ จะได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก ขณะนี้ยอมรับว่าเริ่มขัดสนเงินทอง ต้องกูหนี้ยืมสินจนไม่มีแหล่งเงินใดๆ ให้ยืมแล้ว
ผู้ใหญ่บ้านค้อน้อย กล่าวด้วยว่า ค่าใช้จ่ายครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ขอยอมรับว่าขณะนี้ขัดสนเป็นอย่างมาก เพราะต้องซื้อออกซิเจนวันละ 1 ถัง จึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญ หรือผู้มีจิตกุศล มาช่วยเหลือ เพราะตนไม่รู้ว่าจะพึ่งใครแล้วนอกจากน้ำใจคนไทย โดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทางที่เก่งๆ ที่พอทราบว่าจะมีวิธีใด ที่จะช่วยรักษาอาการนี้ได้
ขณะที่ นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล นายอำเภอกุดบาก ได้นำสิ่งของช่วยเหลือไปมอบให้ในเบื้องต้น พร้อมประสานแจ้งไปยัง นางอรอนงค์ เตชะมณีสถิตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร ได้รับทราบเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป สำหรับผู้ใจบุญคนใด ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือน้องกิ่งไผ่ สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ บัญชีของ นางเสาว์มณี ศิหิรัญ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเภทออมทรัพย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่บัญชี 551-426300-1 ซึ่งเป็นบัญชีของมารดา น.ส.สุดารัตน์ หรือ น้องกิ่งไผ่ ศิหิรัญ