โขลงช้างป่าเขาใหญ่ พากันเดินกินหญ้าข้างทาง และขึ้นมาบนถนนระหว่าง กม.ที่ 34 – 37 ถนนสายปราจีน–เขาใหญ่ แต่เป็นช้างแม่ลูก ไม่ใช่พลายขี้โมโห จึงไม่มีการทำลายรถนักท่องเที่ยว เสนอแก้ปัญหาย้ายโป่งเทียมออกห่างถนน...

จากกรณีที่มีข่าวช้างออกมาอาละวาดรถนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงต้นปี และพังร้านอาหารสวัสดิการของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเฉพาะเส้นทาง ปราจีน–เขาใหญ่ จนเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ตามที่ไทยรัฐออนไลน์เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 14 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่ช้างนิยมออกมาเดินหากิน คือ บริเวณหลัก กม. ที่ 34–37 มีโขลงช้างที่แม่พาลูกออกหากินบนถนนนับ 10 ตัว ส่งผลให้รถของนักท่องเที่ยวต้องจอดรอโขลงช้างทั้งขาขึ้นและลง โดยโขลงช้างดังกล่าว พาลูกออกเดินหากินจาก กม.ที่ 37 ลงไปทางด้านน้ำตกเหวนรก ทำให้รถที่จะขึ้นเขาใหญ่ต้องทยอยถอยหลัง เพื่อปล่อยให้ช้างหากินตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อโขลงช้างเดินไปถึงบริเวณ หลัก กม. ที่ 34 ซึ่งมีโป่งข้างทาง โขลงช้างจึงได้เดินออกจากข้างทางไปกินโป่ง และเดินกลับเข้ามาตามปกติ โดยไม่มีอาการเครียด หรือทำลายรถนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด

ด้าน นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ตนได้ทบทวนถึงการวางแผนระยะยาวตามที่นักวิชาการและกลุ่มอนุรักษ์ได้เสนอ โดยการทำสัญญาณติดตามตัวช้าง การทำรั้วไฟฟ้า การติดตั้ง CCTV การติดตามข้อมูลข่าวสาร เป็นระบบบาร์โค้ดหรือสติกเกอร์ ซึ่งจะนำเรียนผู้บริหารประกอบการตัดสินใจ

ขณะที่ นายภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ให้ความเห็นเรื่องนี้ ว่า ในการทำสัญญาณติดตามตัวนั้น ไม่ทราบว่าคืออะไร แต่การติดตั้ง CCTV มีความเห็นว่าควรดำเนินการเพื่อติดตามพฤติกรรมของช้างและการให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลในการเดินทาง รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าของค่ายมือถือ ควรมาติดตั้งสัญญาณมือถือในพื้นที่ที่ช้างออกมา เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีสัญญาณ เมื่อมีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้

...

นายภัทรพล กล่าวด้วยว่า ส่วนทางเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย มีความเห็นว่า ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เคยทำโป่งเทียมขึ้นที่ข้างทางขึ้นเขาใหญ่ ทางด่านปราจีนบุรี–เขาใหญ่ ที่โป่งอาจารย์แมว และโป่งผาตาแบก เพื่อให้ช้างออกมากินโป่ง และให้นักท่องเที่ยวขับรถผ่านให้เห็นภาพช้างป่าที่กำลังกินโป่งนั้น ทางเจ้าหน้าที่อาจย้ายโป่งเทียมทั้งสองจุดเข้าไปในป่า เพื่อป้องกันช้างออกมาข้างถนน และออกมาเดินเล่นบนถนนสายปราจีน–เขาใหญ่อีกด้วย

"การบริหารจัดการในช่วงนี้ หากมีช้างออกมา ทางเจ้าหน้าที่จะมีการกักรถไว้ก่อน จนช้างเข้าพื้นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการนำรถนักท่องเที่ยวขึ้นลงในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนโป่งเทียมในพื้นที่โป่งอาจารย์แมว และโป่งหนองตาหนวด ที่มีโป่งอยู่ติดถนน ให้มีการสร้างโป่งเทียมขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ที่ห่างจากถนนเข้าไปในป่าอีกด้วย" นายสัตวแพทย์ภัทรพล กล่าว.