พบ ด.ญ.วัย 11 ขวบที่ จ.อุดรธานี ป่วยเป็นมะเร็งถึง 2 ครั้ง ทั้งยังพิการขาลีบ แม่ขายนาซึ่งเป็นที่ทำกินแปลงเดียวของครอบครัว ได้เงิน3แสน ใช้รักษาลูกจนหมด ไม่มีเงินพาไปหาหมอแล้ว วอนผู้ใจบุญช่วย ...

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 บ้านหนองแสงสร้อย ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลังทราบว่า มีเด็กหญิง อายุ 11 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งเนื้อเยื่อกระดูก ต้องการความช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง มีนางจำปาทอง ดวงสุทา อายุ 44 ปี แม่ของ ด.ญ.ภัททิยา หรือน้องบรีส ดวงสุทา อายุ 11 ขวบ ที่ป่วยเป็นมะเร็งเนื้อเยื่อกระดูก โดยที่บริเวณแก้มด้านซ้ายบวมเป่งขนาดใหญ่ ทำให้ใบหน้าเบี้ยวไม่ได้รูป และขาทั้งสองข้างเล็กลีบ ศีรษะโล้น แต่น้องบรีส ยังมีรอยยิ้มและเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกันได้

นางจำปาทอง เล่าว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับนายทองวัน ดวงสุทา อายุ 47 ปี มีอาชีพรับจ้างตัดอ้อย มีบุตรด้วยกัน 2 คน น้องบรีสเป็นลูกคนโต และมีน้องชายวัย 3 ขวบ เมื่อปี 2550 น้องบรีส อายุได้ 3 ขวบกว่า ตนได้นำลูกไปเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาลที่โรงเรียนบ้านหนองแสงสร้อย ลูกได้หกล้มไปชนกับโต๊ะ ทำให้ขาซ้ายบวมปูดเท่ากับลูกมะนาวอยู่เกือบ 1 อาทิตย์ จึงนำลูกไปหาหมอที่ รพ.หนองวัวซอ แพทย์ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี

...

ทั้งนี้ หมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่กล้ามเนื้อ จึงได้ทำการผ่าตัดก้อนเนื้อร้ายออก จากนั้นได้ส่งตัวน้องบรีสไปทำคีโมเพื่อรักษา 37 ครั้ง และทำการฉายแสงอีก 23 ครั้ง ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เป็นระยะเวลา 2 ปี ทำให้ลูกมีอาการดีขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งน้องบรีสมีอายุ 5 ขวบ ในตอนนั้นขาด้านซ้ายเริ่มลีบเล็กผิดปกติ จึงได้ไปปรึกษากับแพทย์ และทำกายภาพบำบัด แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น

แม่น้องบรีส กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อต้นปี 2557 น้องบรีสมีอาการปวดฟัน แก้มซ้ายปูดบวม ตนเลยพาไปรักษาที่ รพ.หนองวัวซอ หลังการตรวจพบว่าฟันแท้กำลังจะขึ้น หมอเลยให้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบมากิน ประมาณ 1 สัปดาห์ผ่านไป แก้มยังไม่ยุบ แถมยังบวมใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ตนเลยพาไปโรงพยาบาลอีก แพทย์ได้ตรวจอย่างละเอียดอีกรอบ แต่ไม่ได้ผ่าตัดเอาก้อนเนื้อที่บวมออก เพราะเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่ และได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ซึ่งก็ส่งต่อไปที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น อีกครั้ง

"แพทย์ที่ รพ.ศรีนครินทร์ ได้ตัดชิ้นเนื้อในแก้มไปทำการวินิจฉัย ผลออกมา ว่า เป็นมะเร็งเนื้อเยื่อกระดูกแก้มซ้าย จึงได้ทำคีโมเพื่อทำการรักษา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2557 แต่ก็ไม่เป็นผล อาการไม่ดีขึ้น ซึ่งแพทย์ที่ รพ.ศรีนครินทร์ แนะนำให้ทำการรักษาโดยการฉายแสง ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา แต่ไม่ได้ไป เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทั้งค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ของพ่อแม่ และตั้งแต่น้องบรีสป่วยเป็นมะเร็งที่กล้ามเนื้อ ก็ได้ตัดสินใจขายที่นาจำนวน 10 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินทำกินแปลงเดียวของครอบครัวได้เงินมา 3 แสนบาท เอามารักษาลูกจนเงินหมด และตอนนี้ก็ไม่มีเงินค่ารถจะพาลูกไปหาหมออีกแล้ว ต้องอาศัยซื้อยาสมุนไพรมาให้ลูกกิน ซึ่งก็ช่วยบรรเทาเวลาที่น้องบรีสปวดแก้มเท่านั้น"

นางจำปาทอง กล่าวต่อว่า ตนและสามีตอนนี้เครียดมาก กลัวว่าอาการของน้องบรีสจะทรุดลง อีกทั้งตนก็ไม่สามารถออกไปรับจ้างตัดอ้อยกับสามีได้ ต้องคอยดูแลน้องบรีสอยู่ที่บ้าน และน้องบรีสก็ไม่สามารถไปโรงเรียน เรียนหนังสือได้เหมือนคนอื่น ได้แต่อ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน ก่อนหน้านี้ทาง อบต.น้ำพ่น เข้ามาช่วยเหลือมอบเงินให้จำนวน 1,700 บาท แต่ก็ไม่สามารถทำเรื่องจ่ายเงินเบี้ยคนพิการให้ได้ จึงอยากวอนผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือน้องบรีส โดยสามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคาร ธกส.สาขาหนองวัวซอ ชื่อบัญชี นางจำปาทอง ดวงสุทา เลขที่บัญชี 7052908900.