ที่ จ.อุบลราชธานี มีการแชร์ภาพ 'น้องจิ๋ว' สาวอาชีวะหน้าตาดี สวมชุดหน่วยกู้ภัย ตั้งหน้าตั้งตากับการเก็บศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ด้านเจ้าตัวเผย เห็นรุ่นพี่หน่วยกู้ภัยทำงานเลยอยากลอง ประทับใจที่ได้ช่วยชีวิตคนบาดเจ็บ...

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดอุบลราชธานี ในขณะนี้ได้มีการแชร์ภาพวัยรุ่นสาวหน้าตาดีผิวขาวสวมชุดเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี จีตัมเกาะ กำลังตั้งหน้าตั้งตากับการเก็บศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถูกชนแล้วหนี บนถนนแจ้งสนิท ขาออก ต.หนองขอน อ.เมืองอุบลราชธานี อย่างไม่กลัวและไม่รังเกียจศพ หรือเลือด ในโลกออนไลน์ พร้อมข้อความชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

จากภาพที่เผยแพร่ออกมาเพียงคืนเดียวบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ และได้มีการส่งต่อภาพของน้องจิ๋ว ทั้งในกลุ่มไลน์ เฟซบุ๊กต่างๆ ทั้งกลุ่มอาสาสมัครกู้ภัย เพจสาธารณะต่างพากันชื่นชม กดถูกใจกับการอุทิศเวลาให้กับการเป็นจิตอาสา กู้ภัย รวมแล้วกว่า 15,000 คน โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิทราบว่า วัยรุ่นสาวจิตอาสารรายนี้เธอชื่อ น้องจิ๋ว หรือ น.ส.กรรณิกา สารเสนาะ อายุ 19 ปี นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ชั้น ปวส.1 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี

...

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เพื่อตามหาและสอบถามถึงแรงบันดาลใจของน้องจิ๋ว กับการมาทำงานอาสากู้ภัย โดยขณะไปพบ น้องกำลังฝึกงานด้านการบัญชีโรงแรมอยู่ภายในวิทยาลัย เจ้าหน้าที่จึงไปตามน้องจิ๋วมา สอบถาม ว่าทราบหรือไม่ว่า น้องจิ๋วกำลังเป็นขวัญใจของชาวโซเชียลในการเป็นจิตอาสา ทางน้องก็บอกว่ายังไม่ทราบ เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดเฟซบุ๊กให้ดู ก็พบว่าเวลาผ่านไปแค่เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง มีคนเข้ามาถูกใจ กว่า 15,000 คนแล้ว

น.ส.กรรณิกา หรือ น้องจิ๋ว เล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำงานจิตอาสากู้ภัยบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า เริ่มจากการที่เห็นพี่ๆ ที่รู้จัก เขาทำงานจิตอาสากู้ภัยมาก่อน จึงได้สอบถามพวกพี่ๆ ว่าทำงานกู้ภัยนี้ได้ตังค์ไหม พี่เค้าก็บอกว่าไม่ได้ ถ้าไม่ได้แล้วพี่จะทำทำไม ทั้งเหนื่อยและ เสียเวลา พี่กู้ภัยเลยบอกตนว่า ถ้าลองมาอยู่จุดนี้ก็จะรู้ ตนจึงตัดสินใจเข้าสมัครเป็นสมาชิกในมูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี จีตัมเกาะ ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน มาทำตอนนี้ได้เก็บศพมาแล้ว 3 ราย และได้ช่วยปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บอีกพอสมควร ซึ่งตนรู้สึกมีความสุขมาก แบบที่บรรยายไม่ได้ว่าความสุขแบบไหน ส่วนความประทับใจคือ การที่เราเห็นเค้าดีใจที่ญาติพี่น้องของเค้าปลอดภัย ประทับใจรอยยิ้ม และคำขอบคุณที่เค้ามีให้ และที่สำคัญที่สุดคือ การที่ผู้บาดเจ็บกลับมาอยู่กับครอบครัวได้อย่างปกติและมีความสุข

น้องจิ๋ว กล่าวอีกว่า แม้ทางครอบครัวตนจะไม่ชอบ และท่านบอกให้ตนหยุดทำ แต่ตนก็บอกว่าหยุดไม่ได้ ตนทำมาแล้ว มันเป็นความสุข การทำกู้ภัยไม่ได้เป็นสิ่งที่เสียหายอะไร กลับเป็นสิ่งที่ดี ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ดีกว่าเอาเวลาไปเที่ยวเตร่ไปวันๆ ได้ประสบการณ์ใหม่ที่ในชีวิตจริงไม่มีโอกาส เช่น การเก็บศพ การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ การช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน เป็นประสบการณ์ใหม่ สามารถนำความรู้ประสบการณ์จากการเป็นอาสากู้ภัย มาใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีการใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท เรื่องของการเรียนตนก็ไม่ได้ทิ้ง ตอนเช้าก็ไปเรียนตามปกติ หลังเลิกเรียนก็จะทำการบ้าน งานที่อาจารย์สั่งเรียบร้อย ถึงจะออกไปที่มูลนิธิ เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าเหตุ หากวันไหนจะมีสอบ หรือมีงานที่วิทยาลัย ก็จะกลับเร็วกว่าปกติ

...

ด้าน น.ส.สุพัตรา วงศวิศาลพร อาจารย์ที่ปรึกษาของน้องจิ๋ว เปิดเผยว่า ตอนแรกที่เห็นลูกศิษย์จากในกลุ่มไลน์ ก็ตกใจว่าทำไมถึงได้ไปอยู่ตรงนั้น ไปทำอะไร น้องก็บอกว่าเค้าไปเป็นกู้ภัย ไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และก็ได้เก็บศพ เมื่อได้ยินว่าเก็บศพก็ยิ่งตกใจตื่นเต้น เพราะไม่เคยเจอ น้องเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แถมน่าตาสวยด้วย แต่พอน้องเล่าให้ฟังว่าได้ไปช่วยคน ช่วยเด็กด้อยโอกาสแล้ว เราก็ดีใจ สนับสนุนกับน้องด้วย ส่วนเรื่องการเรียนก็อยู่ในระดับพอใช้

ขณะที่ ดร.ธนกร ไชยกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี กล่าวว่า ตนภาคภูมิใจกับน้องจิ๋วที่มีจิตใจที่งดงาม มีจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน นั่นก็หมายถึง จิตใจของน้องจิ๋วที่สูงกว่าบุคคลทั่วๆ ไป ที่เค้ากล้าทำในสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้น จึงขอชื่นชม เป็นกำลังใจให้น้องจิ๋ว และขอขอบคุณทุกท่านที่นำเสนอสิ่งดีๆ ของอาชีวะ ไม่ใช่แต่อาชีวะอุบลฯ เท่านั้น แต่เป็นชาวอาชีวะทั้งประเทศ บางท่านอาจจะมองเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี หากมีการได้ลองทำแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมด้วย.

...