เรื่องสั้นวันอาทิตย์วันนี้เป็นเรื่องราวของการบุกรุกทำลายป่าของนายทุนและข้าราชการบางกลุ่ม ชาวบ้านเห็นแล้วเป็นห่วงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไข
เรื่องแรก...ชาวบ้านจาก ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เล่าว่า ป่ารอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาถ้ำพระ เขาจำปา เขาระฆัง เป็นผืนป่าต้นน้ำโครงการพระราชดำริ
ถูกกลุ่มทุนบุกรุกเข้าไปปลูกเป็นสวนปาล์มกินพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล
กว่า 7,000 ไร่!
มีทั้งข้าราชการ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมมือกับนายทุน
เคยมีการร้องเรียนในคอลัมน์นี้นานแล้ว แต่พอเรื่องเงียบก็เข้าไปบุกรุกกันต่อ
ปัจจุบันความเสียหายมากกว่าเดิม ซ้ำยังท้าทายชาวบ้านว่าเงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง แบบนี้หมายความว่ายังไง
เรื่องที่สอง...กลุ่มชาวบ้านประชาอาสาพิทักษ์ป่า ร้องเรียนว่า ผืนป่าเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเป็นผืนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยไม้นานาชนิด
โดยเฉพาะในแถบ จ.ฉะเชิงเทรามีไม้พะยูงที่ราคาแพงลิบลิ่วเมื่อก่อนทหารพรานที่ 1306 กรมทหารพรานที่ 13 จับกุมแทบทุกวัน เลยทำได้ไม่เป็นล่ำเป็นสัน
ปัจจุบันทหารพรานไม่เข้มข้นเหมือนเก่า
นายทุนระดมชาวบ้านเข้าไปตัดมากองไว้ตามหัวไร่ปลายนา จากนั้นก็นำรถบรรทุก 6 ล้อมาขนไปจุดพักไม้ที่บ้านท่าเต็นท์ บ้านนาอิสาน บ้านนายาว ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต
นายทุนกลุ่มนี้เป็นการรวมตัวของผู้นำในท้องถิ่น ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้
เรื่องที่สาม...ชาวบ้านจาก อ.นาแก จ.นครพนม แจ้งว่า ในพื้นที่บ้านหนองกุงและใกล้เคียง ใน ต.พุ่มแก อ.นาแก มีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ชาวบ้านเรียกกันมาแต่โบราณว่า “หนองคัดเค้า”
ใช้ประโยชน์กันมานาน
เป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ประเภทวัว-ควาย ชาวบ้านที่ยากจนก็จะเข้ามาหาฟืนหุงต้มอาหาร จับสัตว์เช่น กิ้งก่า จักจั่น แมลง และเห็ดต่างๆมาเป็นอาหาร
จนกระทั่ง 10 ปีที่แล้วชาวบ้านบางกลุ่มเข้ามาจับจองถากถางต้นไม้แล้วขายให้นายทุน
นายทุนซื้อไร่ละ 4-5,000 บาทแล้วเอารถแบ็กโฮมาโค่นต้นไม้จนเกลี้ยง ปลูกสวนยางพารา ปลูกสวนยูคาลิปตัส
จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบการบุกรุกป่าผืนนี้
เพื่อนำกลับมาเป็นที่สาธารณประโยชน์ของชาวบ้านต่อไป.