วันก่อน พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 แถลงข่าวสายตรวจ สน.บางรัก จับแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ออกอาละวาดลักรถจักรยานยนต์กลางกรุง ได้ผู้ต้องหา 5 คน
คดีนี้ต้องยกย่องให้เป็นความดีความชอบของตำรวจชั้นผู้น้อย
ตีสี่เศษๆของวันที่ 26 เม.ย. ด.ต.ปิยะวัฒน์ บุญรัตนานนท์ ผบ.
หมู่ ป. สน.บางรัก ขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจพื้นที่บริเวณซอยสองพระ ถนนสี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก
พบกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัย
ซ้อนรถจักรยานยนต์มา 4 คัน จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไปถึงแยกมหานครตัดถนนพระราม 4 ถนนมหาเศรษฐ์
ขณะจะเข้าไปขอตรวจค้น รถจักรยานยนต์ทั้ง 4 คันเร่งเครื่องหนี
แต่ 1 ใน 4 คันสะดุดหมุดจราจรรถเสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บ ตำรวจเข้าควบคุมตัวไว้ได้
นำมาสอบสวนขยายผลตามจับพรรคพวกได้อีก 4 คนที่บ้านย่านฝั่งธนบุรี
ทั้งหมดรับสารภาพว่าเป็นแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์ เพิ่งร่วมกับเพื่อนที่ยังหลบหนีลักรถจักรยานยนต์มาจากหลังธนาคารกรุงเทพ สาขาวรจักร ซอยดอกไม้ 1 ถนนวรจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
ใช้วิธีนำเหล็กแหลมเสียบเข้าไปในช่องกุญแจแล้วขี่ออกมา
ให้การด้วยว่ารถที่ขโมยมาได้เอาไปขายให้ “เสี่ยอ้วน” เจ้าของร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ในซอยตากสิน 4 ถนนตากสิน แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี ราคาคันละ 4,000 บาท
ตำรวจขอหมายศาลบุกเข้าค้นร้านของ “เสี่ยอ้วน” ทันที
พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 5 คัน โครงรถ 34 โครง แผ่นตอกเลขตัวถังรถ 28 แผ่น เครื่องรถ 11 เครื่อง สมุดคู่มือทะเบียนรถ 341 เล่มและป้ายทะเบียนรถ 514 ป้าย
“เสี่ยอ้วน” ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ตำรวจต้องประสานกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบยืนยันก่อนที่จะแจ้งข้อหาต่อไป
การจับกุมครั้งนี้ต้องชมเชยสายตรวจ สน.บางรักที่ออกตรวจท้องที่ยามค่ำคืนและตาไวพบพิรุธกลุ่มวัยรุ่น นำมาถึงการจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์แก๊งใหญ่
ซ้ำยังตามไปค้นร้านรับซื้อ
เป็นตัวอย่างของการปราบปรามแก๊งลักรถยนต์ที่ออกอาละวาดหนักในทุกพื้นที่ทั่วประเทศแม้แต่กลางกรุงเทพฯ
จับแก๊งลักรถยังไม่พอ ต้องจับเจ้าของร้านที่รับซื้อเพื่อตัดวงจร
ที่ลักกันทุกวันก็เพราะมีแหล่งเปลี่ยนเป็นเงินได้ง่ายๆนั่นเอง.