เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นฝังแน่นติดอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดไป
จากโครงการ ก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 โรงพัก ทั่วประเทศ ที่ถูกผู้รับเหมาทิ้งงานปล่อยให้เป็นปัญหาตำรวจต้องแก้ไขกันเอง
จากเหตุการณ์ช่วงนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้ใช้ความเป็น ผู้นำและนักบริหาร หามาตรการแก้ไขเยียวยาเพื่อให้มีการปรับปรุงสถานีตำรวจไว้บริการพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
มอบหมาย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวนหาผู้ที่รับผิดชอบ และหาทางปรับปรุงโครงการอาคารสถานีตำรวจที่ปล่อยร้างให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
พล.ต.อ.อดุลย์ เดินสายลงทุกพื้นที่ เพื่อนำแนวคิดและประสบการณ์ในการพัฒนาโรงพักสมัยที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ทำหน้าที่หัวหน้าชุด นปพ.ภ.จ.นครพนม พื้นที่ “สีแดง” สภ.นาแก จ.นครพนม และ สภ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ที่ได้รับ รางวัลโรงพักดีเด่น
นำนโยบาย “ภาวะความเป็นผู้นำ” กระตุ้นเตือน ตำรวจระดับ ผกก.ในพื้นที่มีปัญหา ให้ช่วยกันพัฒนา ปรับปรุง โรงพักตามกำลังความสามารถและศักยภาพของพื้นที่
สนับสนุนงบประมาณเพื่อซ่อมแซมโรงพักและจัดการประกวดโรงพักดีเด่นในทุก บช.ที่ได้รับผลกระทบจากโครงสร้างเพื่อเป็นกองทุนในการพัฒนาแก้ไขสถานีตำรวจ
จากวิกฤติเหตุการณ์ พลิกให้เป็นโอกาสในการพิสูจน์ศักยภาพ ผกก.หัวหน้าสถานี
สภ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นหนึ่งโรงพักที่ได้รับการยอมรับเป็น สถานีดีเด่น อันดับ 2 ของภาค 4 ซึ่งมี พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง เป็น ผบช.ภ.4
พล.ต.อ.อดุลย์ ได้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมแรงร่วมใจ คิดพัฒนาโรงพักทั้งสถานที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ฝึกกำลังพล และข้อมูลสำคัญที่รับผิดชอบ
พล.ต.อ.อดุลย์ ได้เน้นย้ำในนโยบายทุกครั้งที่มีโอกาสเข้าร่วมสัมมนา หรือมอบนโยบายข้าราชการตำรวจ จะให้ความสำคัญในเรื่องความเป็น “ตำรวจมืออาชีพ” และ “ภาวะความเป็นผู้นำ”
หรือการเรียกร้องให้ตำรวจภาคภูมิใจในอาชีพ อดทนอดกลั้นทำงานเพื่อแผ่นดิน สนใจการเปลี่ยนแปลงของโลก คำนึงถึงประชาชนทุกโอกาส จะทำให้มีความมั่นใจทำให้สังคมยอมรับ
จากผู้นำที่ดีและเป็นตำรวจมืออาชีพ!!!