พระราชทานเพลิงศพ "จ.ส.อ.พีรยุทธ น้าวิลัยเจริญ" ลูกสาวโบกมือลาส่งพ่อครั้งสุดท้าย

บรรยากาศโศกเศร้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ "จ.ส.อ.พีรยุทธ น้าวิลัยเจริญ" ทหารกล้าที่เสียชีวิตขณะร่วมภารกิจปกป้องอธิปไตย พื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ ลูกสาววัย 3 ขวบ ตะโกนบอกรักพ่อ โบกมือลาครั้งสุดท้าย

วันที่ 31 ธ.ค.68 เวลา 15.00 น. ณ วัดแจ้ง ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ของ จ.ส.อ.พีรยุทธ น้าวิลัยเจริญ หรือ จ่าคิว อายุ 35 ปี สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ ทหารกล้าที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.68 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทย เหตุปะทะชายแดนไทย - กัมพูชา ในพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

โดยมีนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการ จ.ปราจีนบุรี, นายชนาธิป โคกมนี รองผู้ว่าราชการ จ.ปราจีนบุรี, พลตรี สิทธิพร จุลปานะ รองแม่ทัพภาคที่ 1, พลตรี เสกสรรค์ พรหมศักศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 12, หัวหน้าราชการทุกภาคส่วน, ทหาร และประชาชนกว่า 1,000 คน ที่มาร่วมพิธี

ซึ่งตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น. นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการ จ.ปราจีนบุรี, นายชนาธิป โคกมนี รองผู้ว่าราชการ จ.ปราจีนบุรี และหัวหน้าหน่วยงานราชการ ได้ร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์ แสดงพระธรรมเทศนา สวดมาติกาบังสุกุล ณ ศาลาเพ็ชรประสิทธิ์

เวลา 12.30 น. เป็นพิธีเชิญหีบศพเวียนเมรุ ณ เมรุวัดแจ้ง 3 รอบ แล้วเชิญหีบศพขึ้นตั้งบนจิตกาธาน ญาติทอดผ้าไตรบังสุกุล 1 ไตร (ไตรแบ่ง) บนจิตกาธาน นิมนต์พระสงฆ์นำเวียนเมรุขึ้นพิจารณาผ้าไตร (ใช้พัดยศ) หลังจากนั้นเชิญแขกผู้ร่วมงานขึ้นทอดผ้าไตรบังสุกุล ต่อมาเจ้าหน้าที่เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน และผ้าไตรพระราชทานเข้าสู่สถานที่ประกอบพิธี โดยญาติผู้วายชนม์และข้าราชการแต่งกายปกติขาวไว้ทุกข์ ตั้งแถวรับกล่องเพลิงพระราชทาน

หลังจากที่ได้เชิญหีบศพขึ้นตั้งบนจิตกาธานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางญาติได้อุ้มน้องวิวิว ลูกสาวจ่าคิว วัย 3 ขวบ ยืนอยู่ด้านข้างเมรุ พร้อมกับถือเสื้อเกราะที่จ่าคิวรักและหวงมาก เพื่อให้น้องวิวิวยืนส่งคุณพ่อครั้งสุดท้าย โดยมีการโบกมือให้ทหารที่ยืนอยู่ด้านข้างเมรุ พร้อมตะโกนบอกรักจ่าคิว พร้อมบอกว่า "ปาป๊าไปวิ่งออกกำลังกายอยู่บนสวรรค์ หนูคิดถึงป๊ะป๋า บนสวรรค์มีของเล่น ปาป๊าก็โยนของเล่นลงมาให้วิวิว"

ต่อมา เวลา 14.15 น. กองทหารเกียรติยศ 1 หมวด ถือปืนเล็กล้วน มีแตรเดี่ยว ตั้งแถวด้านข้างเมรุ ญาติผู้วายชนม์อ่านสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ และอ่านประวัติ จ.ส.อ.พีรยุทธ น้าวิลัยเจริญ และเวลา 15.00 น. ประธานในพิธีวางกระทงข้าวตอก กระทงดอกไม้หน้าหีบศพ ทหารกองเกียรติยศเป่าแตรนอน แขกผู้ร่วมงานได้ยืนไว้อาลัย

หลังจากนั้นประธานในพิธีจุดไฟพระราชทาน ทหารกองเกียรติยศทำเพลงเคารพศพ นายทหารประกอบพิธีพับธงชาติเก็บใส่กล่องนำมอบให้แก่ทายาทหรือเจ้าภาพ และมอบเงินพระราชทาน เงินช่วยเหลือต่างๆ หลังจากนั้น พระสงฆ์ ข้าราชการและประชาชน ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ตามลำดับ

ทางด้าน น.ส. ธัญญนิตย์ วรกุลนันทศักดิ์ คุณแม่จ่าคิว พูดทั้งน้ำตาว่า ตนซาบซึ้งในพระมหากรุณาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหน่วยงานราชการทุกหน่วย ตนมีความภูมิใจในตัวลูกมาก ลูกชายรักอาชีพนี้อยากเป็นทหารตั้งแต่เด็ก และได้ไปสมัครทหาร ขณะไปปฏิบัติหน้าที่เขาจะโทรมาบอกแม่ตลอดว่า แม่ไม่ต้องห่วงน้องคิวนะ น้องไม่เป็นไร ตนอยากบอกลูกว่า "แม่ภูมิใจในตัวลูกมากๆ น้องไม่เคยทำให้แม่เสียใจ แม่ไม่เคยผิดหวังในตัวลูก" หลังจากนี้เราก็จะช่วยกันดูแลหลาน

ขณะที่ น.ส. สุวดี ลันวงษา พี่สาวของภรรยาจ่าคิว ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ได้กล่าวว่า "พี่อยากจะบอกคิวว่าพี่จะดูแลหลานแทนคิวเอง พี่อาจจะดูแลไม่ดีเท่าคิว แต่พี่ขอสัญญาว่าจะดูแลวิวิวอย่างดี ขอให้คิวอยู่บนฟ้าให้สบาย" คิวเขารักครอบครัวและรักพ่อแม่ และญาติพี่น้องทุกคนเขาก็รักคิว เขาทำหน้าที่ของเขาเต็มที่แล้ว เขาตั้งใจทำหน้าที่ของเขาดีที่สุด เขาเก็บของเรียบร้อยแล้วเพื่อจะกลับบ้าน และเขาภูมิใจที่เขาได้ไปอยู่ตรงจุดนั้น ตนรู้สึกตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณ และขอบคุณทุกคน

โดยพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของจ่าคิว พร้อมให้กำลังใจญาติผู้สูญเสีย และเป็นสักขีพยานในพิธีมอบธงชาติคลุมหีบศพ มอบใบประกาศเกียรติคุณ รวมถึงเงินพระราชทาน เงินช่วยเหลือจากกองทัพบก และเงินสินไหมทดแทนจากกองทัพภาคที่ 1 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละของทหารกล้า

ซึ่งวันพรุ่งนี้ (1 ม.ค. 69) จะมีพิธีเก็บกระดูกสามหาบ (หรือเดินสามหาบ) เป็นประเพณีเก็บอัฐิหลังฌาปนกิจ ซึ่งเป็นพิธีสำคัญที่แสดงถึงการส่งดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ.