เฝ้ารอข่าวดี ครอบครัว "พลทหารโตเกียว" เชื่อปาฏิหาริย์มีจริงหลังกลับมามีชีพจร ตอบสนองต่อการรักษา พร้อมหวังให้กลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้ง

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านของ พลทหารนิธิกร สมทุม หรือ พลทหารโตเกียว อายุ 21 ปี ทหารชาว จ.ศรีสะเกษ ซึ่งถูกระบุในโลกโซเชียลว่าเป็นทหารรายที่ 27 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุปะทะบริเวณสมรภูมิบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ถูกสะเก็ดระเบิดจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา กระเด็นเข้าบริเวณลำคออาการสาหัส

ในช่วงแรกครอบครัวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า พลทหารโตเกียว ไม่มีชีพจรและเสียชีวิตแล้ว ทำให้ญาติพี่น้องต่างตกอยู่ในความโศกเศร้า แต่ต่อมาได้รับการยืนยันเพิ่มเติมว่า พลทหารโตเกียว ยังมีชีพจรและยังตอบสนองต่อการรักษา สร้างความหวังให้กับครอบครัวและญาติที่ต่างภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์

...

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์โจมตีด้วยจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ธ.ค. ที่สมรภูมิบ้านหนองจาน ส่งผลให้มีทหารไทยเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยผู้เสียชีวิต ได้แก่ จ.ส.อ.พงศกร นาคทองดี อายุ 36 ปี ถูกสะเก็ดเข้าปอดและต้นขา เสียเลือดมาก พลทหารปฏิพัทธิ์ ศรประดิษฐ์ อายุ 19 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และพลทหารทิวตะวัน พลเยี่ยม อายุ 22 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย พลทหารนิธิกร สมทุม อายุ 21 ปี บาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดระเบิดที่คอ รวมถึงทหารอีกหลายนายที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดและแรงอัดของจรวด

สำหรับบรรยากาศที่บ้านพักของครอบครัว เต็มไปด้วยความกังวลและการเฝ้ารอข่าวดีจากโรงพยาบาล ท่ามกลางกำลังใจจากญาติพี่น้องและชาวบ้านในพื้นที่

นางภัทราพร สมทุม อายุ 46 ปี เผยว่า ได้รับข่าวว่ามีรายชื่อผู้บาดเจ็บที่บ้านหนองจาน และมีรายชื่อของลูกชายตนเองเป็นเคสแดง นั่นคือบาดเจ็บสาหัส และถูกส่งต่อไปยัง รพ.ลพบุรี ต่อมามีการแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว ญาติทั้งหมดมารวมตัวกันพูดคุยสักพักใหญ่ โดยทางค่ายฯโทรมาแจ้งว่าบุตรชายถูก BM-21 เสียชีวิตแล้วก็เริ่มพากันทำใจแล้ว แต่ก่อนผู้สื่อข่าวจะเดินทางไปถึง ได้มีการติดต่อมาแจ้งว่าบุตรชายของตนยังมีชีพจรทำให้ครอบครัวลุ้นให้ปลอดภัย

ขณะที่ นายธนกร สมทุม อายุ 49 ปี เผยว่า ได้รับแจ้งว่าลูกชายต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปรักษาตัวที่ลพบุรีและมีชีพจรขึ้นมาอีก จึงคิดว่าปาฏิหาริย์มีจริง ตอนนี้ทางครอบครัวร่วมกันภาวนาให้น้องโตเกียวปลอดภัย ให้ลูกสู้กับอาการบาดเจ็บกลับมาสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย

ส่วนตอนที่ทราบจากเพจต่างๆ มีรายชื่อลูกชายเป็นเคสสีแดงอยู่คนเดียว และมีกระแสข่าวว่าเสียชีวิต เมื่อได้ทราบข่าวพ่อแม่ญาติพี่น้องต่างพากันเข่าอ่อนกอดคอกันร้องไห้ทั้งบ้าน ผู้เป็นยายทราบข่าวถึงกับมีอาการอ่อนแรงร้องไห้จนแทบเป็นลม ญาติพี่น้องพากันมาให้กำลังใจมาติดตามข่าวกันเกือบทั้งหมู่บ้าน และตกใจกันมาก

ทั้งนี้ พลทหารโตเกียว ก็ได้มีโอกาสกลับมาบ้านเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนการสู้รบ ตามแนวชายแดนจะเกิดขึ้น ได้พักไม่ถึง 7 วัน ก็มีสถานการณ์พื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จึงเดินทางกลับเข้าประจำการที่ฝั่งโคกสูง จ.สระแก้ว ไม่ได้อยู่หน้าแนวในห้วงแรก ได้มีการส่งข่าวกลับมาว่าอยู่ห่างไกลพื้นที่ปะทะราว 30 กิโลเมตร ทำหน้าที่ตัดต้นไม้เสริมการป้องกันให้รถปฏิบัติการ ก็คิดว่าลูกไม่ได้มีความเสี่ยงมาก แต่ก็มีเกิดเหตุบาดเจ็บในวันนี้

ตอนนี้เมื่อทราบว่าลูกยังมีชีพจร ก็ขอให้ลูกปลอดภัย และพ่อกับแม่ก็ดีใจและมีความหวังกลับขึ้นมา มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง เพราะครอบครัวก็ไม่อยากเสียใจ

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวยังคงเฝ้ารอข่าวสารจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด พร้อมภาวนาให้ พลทหารโตเกียว ผ่านพ้นอาการบาดเจ็บสาหัส และกลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้ง ท่ามกลางความหวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นจริง.

...