ศิษยานุศิษย์เศร้า "หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต" เจ้าอาวาสวัดโนนสว่าง เกจิดังอุดรธานี ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 64 ปี
วันที่ 26 ธ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดโนนสว่าง ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี มีประกาศเรื่อง อาการอาพาธพระพิพัฒน์วชิราคม วิ. หรือ หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต เจ้าอาวาสวัดโนนสว่าง เจ้าคณะอำเภอหนองวัวซอ (ธ) เนื่องจากไข้หวัดและน้ำท่วมปอด ได้เข้ารับการรักษา ณ หอผู้ป่วยสงฆ์ 10 โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2568 โดยมีการดูแลรักษาจากคณะแพทย์ พยาบาลเฉพาะทาง และคณะอุปัฏฐากอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา วันที่ 22 ธ.ค. 2568 คณะแพทย์ได้ย้ายเข้ารับการรักษาที่หออภิบาลผู้ป่วยหนักสงฆ์ 9 เนื่องจากหลวงพ่อเจริญ มีอาการหัวใจเต้นช้าผิดปกติและไม่รู้สึกตัว ผลการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองพบว่า สมองขาดเลือดจากภาวะหลอดเลือดสมองอุดตัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องถวายการหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ และยากระตุ้นหัวใจทางหลอดเลือดแต่ยังไม่พ้นภาวะวิกฤต
ทั้งนี้ คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างต่อเนื่องอย่างเต็มกำลังความสามารถ เนื่องจากอาการอาพาธของหลวงพ่อเจริญ มีอาการรุนแรงมากไม่ตอบสนองการรักษา หลวงพ่อได้ละสังขารด้วยอาการสงบ ในเวลา 05.58 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2568 สิริอายุ 64 ปี 43 พรรษา สร้างความโศกเศร้าให้กับศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก
สำหรับประวัติ พระพิพัฒน์วชิราคม วิ. หรือ หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต นามเดิม เจริญ สารักษ์ เกิดวันที่ 7 มิ.ย. 2504 ที่บ้านหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี บิดาชื่อนายสงวน สารักษ์ ชาวอุบลราชธานี มารดาชื่อนางฮวด สารักษ์ ชาวอุดรธานี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 10 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 2 คน หลวงพ่อเจริญเป็นบุตรลำดับที่ 6 บรรพชาสามเณรที่วัดบุญญานุสรณ์ อ.หนองวัวซอ ขณะเป็นสามเณรได้สนใจศึกษาหัดเขียนคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน และเรียนอาคมจากพ่อใหญ่มั่น ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้าน จึงสามารถอ่านและเขียนอักษรธรรมอีสาน อักษรธรรมล้านนา อักษรไทยน้อยจนแตกฉาน และสามารถจารหนังสือใบลานได้ตั้งแต่บรรพชาและมีพุทธาคม
...
เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดป่าสามัคคีอุปถัมภ์ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ในขณะนั้น โดยมีพระครูสิริธรรมวัฒน์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายา “ฐานยุตโต” ในคณะธรรมยุต ได้ไปจำพรรษาอยู่กับพระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่เมตตาหลวง) วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้เรียนวิชาเมตตาหลวง ตำราเลขยันต์ คาถาลงตะกรุดโทน แคล้วคลาด ยันตรีนิสิงเห และสอนให้บริกรรม ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ นะ มะ พะ ทะ เมื่อหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน จ.หนองบัวลำภู ละสังขาร จึงได้มางานพระราชทานเพลิงศพ และได้รับนิมนต์อยู่ต่อ
ต่อมา พระครูพุทธคาสโนวาท เจ้าอาวาสวัดศรีสว่าง บ้านหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ ละสังขาร จึงได้อยู่ช่วยงานจนเสร็จ ชาวบ้านได้อาราธนาให้จำพรรษาและพัฒนาวัดในอำเภอบ้านเกิด กระทั่งได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีสว่าง เป็นวัดโนนสว่าง และจำพรรษาอยู่จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่มาช่วยพัฒนาอารามแห่งนี้ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ เป็นที่พึ่งทางจิตใจให้ชาวอุดรธานี และชาวอีสาน เนื่องจากได้ศึกษาด้านพุทธาคมจนแตกฉาน วันที่ 5 ธ.ค. 2537 จึงได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นพระครูสัญญาบัตร ในชื่อ พระครูพิพัฒน์วิทยาคม วิ. วันที่ 3 ก.ค. 2567 ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะขั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระในชื่อ พระพิพัฒน์วชิราคม วิ.
อย่างไรก็ตาม ศิษยานุศิษย์ได้นำสรีระสังขาร หลวงพ่อเจริญ ใส่โรงแก้วตั้งไว้ที่ชั้น 1 ตึกหลวงตามหาบัว โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อให้ประชาชนและศิษยานุศิษย์ได้กราบสักการะ ในวันที่ 27 ธ.ค. 2568 เวลา 12.00 น. จะได้เคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อเจริญ จากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ณ วิหารเฉลิมพระเกียรติ วัดโนนสว่าง ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี.