โดย รศ.นพ.บูรพา ปุสธรรม อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลศรีนครินทร์และศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
อาการ “เหนื่อยง่าย” เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ คน ซึ่งหลายครั้งมักเกิดจากเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น พักผ่อนน้อย หรืออายุที่มากขึ้น หรือบางครั้งอาจเป็นอาการนำของโรคจำนวนหนึ่งซึ่งพบบ่อยและสามารถให้การวินิจฉัยได้โดยไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตาม อาการเหนื่อยง่ายในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดจากโรคร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ซึ่งพบไม่บ่อยและให้การวินิจฉัยได้ยาก โดยหนึ่งในนั้นคือภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง (pulmonary arterial hypertension: PAH) ซึ่งมักเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยภาวะนี้ได้รับการวินิจฉัยล่าช้าหรือบางรายอาจได้รับการวินิจฉัยผิดพลาดเป็นอาการเหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุได้
แม้จะเป็นภาวะที่พบไม่บ่อย แต่ไม่ได้หมายความว่าภาวะนี้จะมีผู้ป่วยจำนวนน้อย ในปัจจุบันมีผู้ป่วยภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มพบภาวะนี้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากแพทย์มีความรู้และการตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะนี้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีผู้ป่วยจำนวนอีกไม่น้อยที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย ทั้งนี้เพราะอาการเริ่มต้นของภาวะนี้ไม่จำเพาะ ดังนั้นจึงทำให้ภาวะนี้อาจไม่ถูกนึกถึงตั้งแต่ในช่วงต้นของกระบวนการตรวจวินิจฉัยและรักษา
ทำความรู้จักกับภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง
ความดันโลหิตสูงที่คนทั่วไปคุ้นเคย เป็นภาวะผิดปกติของความดันในระบบหลอดเลือดแดงทั่วไปของร่างกายซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจห้องซ้าย แต่ภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงเป็นภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดแดงปอดซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจห้องขวาซึ่งทำงานประสานกันเป็นอีกระบบหนึ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยภาวะนี้เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดงขนาดเล็กในปอดซึ่งมีการหนาตัวหรือหดตัวผิดปกติ ส่งผลให้ความดันในหลอดเลือดปอดสูงขึ้นและทำให้หัวใจห้องขวาต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อส่งเลือดเข้าไปยังปอด ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ภาวะนี้จะนำไปสู่ภาวะหัวใจห้องขวาล้มเหลวในท้ายที่สุด
สัญญาณเตือนและอาการเริ่มต้นที่ไม่ควรมองข้าม
ผู้ป่วยภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงมักมาพบแพทย์ด้วยอาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม หรือความสามารถในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันลดลง เมื่อโรคดำเนินรุนแรงขึ้นผู้ป่วยอาจมีอาการเป็นลมหรือคล้ายจะเป็นลม รวมถึงมีอาการบวมของขาและท้องจากผลของภาวะหัวใจห้องขวาล้มเหลว ซึ่งหากผู้ป่วยมาพบแพทย์หรือได้รับการวินิจฉัยในขณะที่ภาวะนี้เป็นรุนแรงแล้วนั้น มักจะทำให้การรักษาทำได้ลำบากและผลการรักษาไม่ดี
ดังนั้นการวินิจฉัยภาวะนี้ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นจึงมีความสำคัญมากเนื่องจากจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็ว โดยผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยผิดปกติร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงของภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงควรได้รับการประเมินอย่างละเอียดเพื่อหาว่าเป็นภาวะนี้หรือไม่ โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ การเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น โรคเอสแอลอี (SLE) หรือโรคหนังแข็ง การมีโรคหัวใจแต่กำเนิด การใช้ยาบางประเภท รวมถึงการมีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้มาก่อนเนื่องจากอาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม
เนื่องจากอาการของภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงคล้ายกับอาการของโรคอื่นที่พบบ่อยหลายชนิด ดังนั้นแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยจึงมีบทบาทสำคัญในการแยกแยะและวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง โดยแพทย์ควรนึกถึงภาวะนี้ในผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยง่ายร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงของภาวะนี้ดังกล่าวข้างต้น หรือควรนึกถึงภาวะนี้ในผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุแม้จะไม่มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวก็ตาม
การวินิจฉัย
ในผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติมอีกหลายอย่างเพื่อให้ทราบการวินิจฉัยที่แน่ชัด ซึ่งที่สำคัญได้แก่ การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ การตรวจภาพรังสีวินิจฉัยของหลอดเลือดแดงปอด และการตรวจสวนหัวใจ โดยวัตถุประสงค์ของการประเมินที่สำคัญคือเพื่อระบุให้ได้ว่าผู้ป่วยมีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงจริง และวินิจฉัยแยกโรคระหว่างภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงและภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงจากสาเหตุอื่น ๆ ออกจากกันให้แน่ชัด ทั้งนี้เนื่องจากแนวทางการรักษาของแต่ละภาวะมีความแตกต่างกัน
การรักษา
การดูแลผู้ป่วยภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงในปัจจุบันเป็นการรักษาแบบองค์รวมซึ่งประกอบด้วย
- การดูแลภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะหัวใจห้องขวาล้มเหลว การป้องกันการติดเชื้อ และการดูแลด้านสังคม เนื่องจากผู้ป่วยจำนวนมากไม่สามารถใช้ชีวิตหรือทำงานได้ตามปกติ
- การรักษาด้วยยาขยายหลอดเลือดปอด เพื่อปรับสภาพหลอดเลือดแดงปอดที่หนาตัวหรือหดตัวผิดปกติซึ่งสามารถช่วยลดความดันในหลอดเลือดปอดและชะลอการดำเนินของโรคได้
แม้ภาวะนี้จะยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นสามารถช่วยชะลอโรค ลดความรุนแรงของอาการ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันนับว่าเป็นข่าวดีเนื่องจากมีแพทย์จากหลายสาขาและหลายสถาบันในประเทศไทยได้ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้และเครือข่ายสำหรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับประชาชน หากพบว่าตนเองมีอาการเหนื่อยง่ายผิดปกติร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงของภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง ควรแจ้งความกังวลของตนเองให้แพทย์ทราบได้โดยตรง ซึ่งการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ รวมถึงระบบการดูแลผู้ป่วยที่ดีจะช่วยให้ผู้ป่วยภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงได้รับการวินิจฉัยและเข้าถึงการรักษาได้เร็วยิ่งขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.msd-thailand.com