ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว กกล.บูรพา ปะทะ 3 จุด ถล่มเป้าทหารปอยเปต 2 แห่ง สูญเสียทหาร 1 นาย พลเรือนเจ็บ 7 อพยพกว่า 1.7 หมื่น

ความเคลื่อนไหวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เมื่อเวลา 18.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 16 โดยมีการรบปะทะ เพื่อยึดครองพื้นที่ ใน 3 พื้นที่

1.พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา : ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และใช้อาวุธยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่, อาวุธยิงเล็งตรง, ปืนเล็ก และใช้ BM 21 ยิงตอบโต้มายังฝ่ายเรา ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุน ทำการยิงตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อควบคุมพื้นที่

2.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่ เตรียมสถาปนาแนวที่มั่นตั้งรับและตอบโต้ตามสถานการณ์

3. พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่

โดยในวันนี้ กกล.บูรพา ปฏิบัติการโจมตีต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ปอยเปต จำนวน 2 แห่ง โดยยิงทำลายอาคารที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการและเก็บอาวุธกระสุน ซึ่งไม่มีพลเรือนพักอาศัยอยู่ในอาคารแล้ว ได้แก่

1.อาคาร International center (call center) เดิมเป็นอาคารที่รวบรวมบุคคลข้ามแดน ก่อนจะแยกย้ายส่งไปทำงานสแกมเมอร์ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้แปรสภาพเป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร
โดยอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนถาวร บ้านหนองเอี่ยน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ประมาณ 2 กม.

2. อาคารฝั่งตรงข้ามวัดวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ เดิมเป็นอาคารในการจัดทำบัญชีม้าของกลุ่มสแกมเมอร์ และได้แปรสภาพเป็นที่เก็บอาวุธและกระสุนของฝ่ายกัมพูชา โดยมีการตรวจพบพลซุ่มยิงของฝ่ายกัมพูชาอีกด้วย

นอกจากนี้ได้รับรายงานกำลังพลเสียชีวิต คือ พลทหาร ธนพัฒน์ นันทะวงศ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ตลอดจนพบความเสียหายจากฝ่ายกัมพูชาใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 และเครื่องยิงลูกระเบิดยิงใส่พื้นที่พลเรือน จ.สระแก้ว โดยในห้วง ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 - 23 ธ.ค.68 ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 7 ราย มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 14 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย 5,893 ไร่ นอกจากนี้ ยังทำลายระบบสาธารณูปโภค อาทิ ถนน 7 จุด, เสาไฟฟ้าแรงสูง 3 จุด, กำแพงปศุสัตว์ 1 จุด และกำแพงโรงเรียน 1 จุด เป็นต้น

สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จำนวน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งเตือนให้อพยพมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย โดยปัจจุบันได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้บริการ จำนวน 40 ศูนย์ มีประชาชน รวม 17,441 คน

...