บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ขอชี้แจงกรณีมีการให้ข่าวและเผยแพร่ข้อความผ่านสื่อและสังคมออนไลน์ โดยมีการพาดพิงถึงบริษัทเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานสื่อโฆษณากับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (“ขสมก.”) ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ของบริษัท

ข้อพิพาทและผลคำพิพากษาของศาล

ข้อร้องเรียนที่ผู้ร้องเรียนทำหนังสือถึงท่านนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เป็นข้อกล่าวอ้างที่เกี่ยวเนื่องกับข้อพิพาทเดิมซึ่งเกิดขึ้นมานานเกือบ 20 ปี (ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550) โดยผู้ร้องเรียนได้ยื่นฟ้องบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องและบริษัทรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินคดีกลับ รวมเป็นข้อพิพาทคดีอาญาจำนวน 21 คดี ซึ่งศาลตัดสินให้บริษัทเป็นผู้ชนะคดีทุกคดี

สำหรับคดีที่ผู้ร้องเรียนเป็นผู้ฟ้องนั้น ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องทั้งหมด หรือมีคำสั่งจำหน่ายคดีเนื่องจากเป็นคดีไม่มีมูล สะท้อนอย่างชัดเจนว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผู้ร้องเรียนไม่อาจนำคดีเดิมกลับมาฟ้องซ้ำได้ และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวได้ขาดอายุความแล้วตามกฎหมาย

ในส่วนคดีที่บริษัทและผู้เกี่ยวข้องเป็นโจทก์ฟ้องกลับนั้น ผู้ร้องเรียนในฐานะจำเลยได้ให้ถ้อยคำยอมรับต่อศาลว่าได้ดำเนินการไปด้วยความเข้าใจผิด บริษัทและผู้เกี่ยวข้องจึงยอมถอนฟ้องในคดีที่เกี่ยวข้อง และในบางคดีที่เป็นความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษผู้ร้องเรียนด้วย นอกจากนี้ ขสมก. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ถูกพาดพิง ยังได้ใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับผู้ร้องเรียนเช่นกัน

ดังนั้น การกล่าวอ้างในครั้งนี้จึงเป็นการรื้อฟื้นประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยยุติข้อพิพาทไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท ผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า และสาธารณชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้

ประวัติข้อพิพาททางคดีของผู้ร้องเรียน

ผู้ร้องเรียนเคยมีประวัติถูกศาลพิพากษาลงโทษในคดีหมิ่นประมาทและคดีฉ้อโกงผู้อื่นหลายคดี ทั้งนี้ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาพฤติการณ์และน้ำหนักความน่าเชื่อถือของข้อกล่าวอ้างที่มีต่อบริษัทในครั้งนี้ รวมถึงการหยิบยกประเด็นเดิมซึ่งอ้างว่าเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนกลับมากล่าวอ้างอีกครั้ง

จุดยืนของบริษัทต่อกระบวนการยุติธรรมและธรรมาภิบาล

บริษัทเคารพและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน และพร้อมเปิดเผยข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาเป็นลายลักษณ์อักษรของศาล ซึ่งชี้ชัดว่าข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทไม่มีมูลตามกฎหมาย บริษัทดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยตระหนักว่าการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือขัดแย้งกับคำพิพากษาของศาล อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย และภาพลักษณ์ของตลาดหุ้นโดยรวม

การสงวนสิทธิ์ดำเนินการทางกฎหมาย

จากการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงและคำพิพากษาของศาล ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และผลประโยชน์ของบริษัท บริษัทจึงขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญา กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว บริษัทขอเรียนให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปมั่นใจว่า บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดกับข้อเท็จจริงและความโปร่งใส และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นธรรม บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและกฎหมาย