เพียงแค่เปิดประตูรถหลังดื่มแล้วขับออกไป คุณได้เปิดประตูคุกให้กับตัวเอง และเปิดประตูนรกให้กับคนที่คุณรักเรียบร้อยแล้ว
สำหรับบางคน การดื่มแอลกอฮอล์อาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่เมื่อคุณตัดสินใจขับรถหลังดื่ม ทุกวินาทีคือการเสี่ยงชีวิตและอนาคตของคุณเองและคนรอบข้าง กฎหมายปี 2568 เข้มงวดกว่าที่เคย แค่เจอด่านเป่าแอลกอฮอล์แล้วเกินกฎหมายกำหนด ก็ต้องขึ้นศาล ไม่จำเป็นต้องเกิดอุบัติเหตุถึงจะมีความผิด หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่จำเป็นต้องชนใครก็ถือว่ามีความผิดทันที ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนยังสูงติดอันดับโลก และสาเหตุสำคัญคือการดื่มแล้วขับ การตัดสินใจเพียงครั้งเดียวอาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิต
ทั้งนี้ จากข้อมูลกรมควบคุมโรค กองป้องกันการบาดเจ็บ ปี 2567 พบว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการดื่มแล้วขับมากถึง 56,850 ราย เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น วันนี้เราจึงรวบรวม “ผลกระทบครบวงจร” พร้อมข้อมูลอัปเดตปี 2568 ว่าถ้าดื่มแล้วขับ คุณต้องเจออะไรบ้าง ตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดเหตุจนถึงผลกระทบระยะยาวที่อาจติดตามคุณไปตลอดชีวิต
เป่าแอลกอฮอล์ เสียค่าปรับเท่าไหร่?
“เมาแล้วขับ โดนปรับเท่าไหร่?” คำถามที่นักดื่มมักค้นหาคำตอบ ซึ่งหากตรวจพบแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000–20,000 บาท หากปฏิเสธการเป่าถือว่ามีความผิดเช่นกัน สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หากเป่าเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ก็มีโทษเท่าผู้ใหญ่ และร้านค้าที่จำหน่ายต้องร่วมรับผิดด้วย
เงินค่าปรับอาจจะไม่มาก สำหรับนักดื่ม แต่เงินค่าปรับจะช่วยเตือนสติ ไม่ให้เมาแล้วขับจนเกิดความเสียหายมากกว่านี้
เมาแล้วขับ ขึ้นศาลไหม?
คำตอบคือใช่ ทุกคนต้องขึ้นศาล แม้ไม่ชนใครก็ตาม โทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี (อาจรอลงอาญาหากเป็นครั้งแรก) พร้อมคุมประพฤติ 1–2 ปี และบำเพ็ญประโยชน์ 12–48 ชั่วโมง รวมถึงพักใบขับขี่ 6 เดือน หากกระทำผิดซ้ำครั้งที่สองจะถูกจำคุกจริงไม่รอลงอาญา โทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับ 50,000–100,000 บาท ด้วยเสมอ และอาจรวมถึงให้พักหรือเพิกถอนใบขับขี่ถาวร
สิ่งที่เจอทันทีเมื่อปิดประตูรถ
หากเจอด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จะดูลักษณะอาการ เช่น ม่านตา หรือมีกลิ่นแอลกอฮอล์ พร้อมขอเป่าวัดแอลกอฮอล์แบบคัดกรอง หากขึ้นว่ามีแอลกอฮอล์จะเชิญไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ด้วยเครื่องเป่าแบบยืนยันผลอีกที หากเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะถูกแจ้งข้อหาและควบคุมตัวไปโรงพักเพื่อทำบันทึกประจำวัน ต้องวางประกัน 10,000–20,000 บาท พร้อมนำส่งศาลในวันถัดไป หากเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจและหน่วยกู้ภัยจะเข้าถึงที่เกิดเหตุ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ เก็บหลักฐาน และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อส่งฟ้องศาล แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีเป่าตรวจ ณ จุดตรวจ หรือเกิดอุบัติเหตุ พนักงานเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจประวัติกระทำผิดซ้ำย้อนหลัง 2 ปีเสมอ เพื่อเพิ่มโทษ
ผลทางอาญา
เมาแล้วขับโดยไม่ชนใคร มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000–20,000 บาท พร้อมพักใบขับขี่ 6 เดือนและคุมประพฤติ 1 ปี หากอายุต่ำกว่า 20 ปีแต่ตรวจพบเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ก็มีโทษเท่าผู้ใหญ่ หากทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ โทษจำคุก 1–5 ปี ปรับ 20,000–100,000 บาท และพักใบขับขี่ 1 ปี หากบาดเจ็บสาหัส โทษจำคุก 2–6 ปี ปรับ 40,000–120,000 บาท และพักใบขับขี่ 2 ปี หากทำให้เสียชีวิต โทษจำคุก 3–10 ปี ปรับ 60,000–200,000 บาท และเพิกถอนใบขับขี่ถาวร พร้อมติดประวัติอาชญากรรมตลอดชีวิต
ผลทางแพ่ง
นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ยังต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่อาจสูงถึง 1–5 ล้านบาท ทั้งค่ารักษาพยาบาลของตนเองและผู้เสียหาย ค่าซ่อมรถและทรัพย์สินสาธารณะ (ซึ่งประกันไม่คุ้มครองหากเมาแล้วขับ) รวมถึงค่าเสียหายจากการสูญเสียอวัยวะหรือชีวิต เช่น ค่าเลี้ยงดูครอบครัว ค่าเสียโอกาสรายได้ และค่าทำศพ นอกจากนี้ยังมีค่าทนายความและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีที่อาจสูงถึงหลักแสนบาทเลยก็ได้
ผลกระทบระยะยาว
กระบวนการทางกฎหมายอาจยืดเยื้อ 5–10 ปี ต้องขึ้นศาลหลายครั้ง รายงานตัวคุมประพฤติ และบำเพ็ญประโยชน์ตามคำสั่งศาล ผลกระทบต่อสิทธิและโอกาสก็รุนแรง เช่น การถูกเพิกถอนใบขับขี่ การมีประวัติอาชญากรรมที่ทำให้สมัครงานหรือขอวีซ่ายากขึ้น เบี้ยประกันรถแพงขึ้นหรือถูกปฏิเสธ และยังส่งผลต่อชีวิตส่วนตัว ทั้งการสูญเสียงาน รายได้ และชื่อเสียง รวมถึงบาดแผลทางจิตใจที่ติดตัวไปตลอดชีวิต ครอบครัวเดือดร้อนและถูกประจานในสื่อสังคมออนไลน์
Timeline ของหายนะ
ตั้งแต่วินาทีที่คุณดื่ม แอลกอฮอล์จะเข้าสู่สมองภายใน 5 นาที ทำให้มึนงง ภายใน 30 นาที คุณอาจขับรถออกไป และภายใน 1 ชั่วโมงก็อาจเจอด่านหรือเกิดอุบัติเหตุ ภายใน 2 ชั่วโมงจะถูกจับกุมและทำบันทึก ภายใน 1 วันข่าวจะออกสื่อ ภายใน 1 เดือนต้องขึ้นศาลครั้งแรก และภายใน 6 เดือนจะถูกพักใบขับขี่และเริ่มคุมประพฤติ แม้คดีจะจบภายใน 1–2 ปี (บางคดีอาจยาวนานกว่านั้นมาก) แต่ประวัติจะติดตัวไปตลอดชีวิต
สรุปชัด ๆ
การดื่มแล้วขับไม่ใช่แค่ความผิด แต่คือการทำลายชีวิตตัวเองและผู้อื่น จากวินาทีที่คุณปิดประตูรถหลังดื่มแอลกอฮอล์ คุณกำลังเปิดประตูคุกและเปิดประตูนรกให้กับตัวเองและคนที่คุณรัก แม้ไม่ชนใคร แค่เจอด่านเป่าก็ต้องขึ้นศาล เสียค่าปรับหลักหมื่นถึงแสน คุมประพฤติ บำเพ็ญประโยชน์ และพักใบขับขี่ หากชนคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ค่าชดเชยหลักล้าน และประวัติอาชญากรรมติดตัวตลอดชีวิต การตัดสินใจเพียงครั้งเดียวสามารถทำลายชีวิตได้ตลอดกาล อย่าปล่อยให้การดื่มแล้วขับพรากอนาคตของคุณและคนที่คุณรัก
#เมาแล้วขับขึ้นศาลไหม #เป่าแอลกอฮอล์เสียค่าปรับเท่าไหร่ #เจอด่านเป่าทำไง #เมาแล้วขับ2568 #โทษเมาแล้วขับ #คุมประพฤติ #บำเพ็ญประโยชน์ #เจอด่าน #เป่าแอลกอฮอล์ #ดื่มไม่ขับ #ดื่มไม่ขับกลับบ้านปลอดภัย #ดื่มแล้วขับไม่ได้ดับแค่คุณคนเดียว #ผลกระทบที่ไม่สิ้นสุด
กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดี ๆ จาก สสส. เพิ่มเติมได้ที่:
Facebook: Social Marketing Thaihealth by สสส.
Line: @thaihealththailand
Tiktok: @thaihealth
Youtube: SocialMarketingTH
Website: Social Marketing การตลาดเพื่อสังคม