เสียงนับถอยหลังใกล้ดังขึ้นอีกครั้ง ทุกปีช่วงปลายธันวาคมถึงต้นมกราคม คือช่วงเวลาที่คนไทยตั้งตารอมากที่สุด ทั้งการพักผ่อน การเริ่มต้นใหม่ และการเดินทางไปยังที่ที่อยากไปมานาน

ปีใหม่นี้ ถ้าคุณกำลังถามตัวเองว่า “ปีใหม่ 2568 ไปไหนดี?” นี่คือ 10 จุดหมายฉลองปีใหม่ในประเทศไทย ที่รวมทั้งความสนุก ความโรแมนติก และความสงบในแบบที่คุณเลือกได้เอง พร้อมเคล็ดลับเดินทางง่ายๆ ผ่าน 12Go ผู้ช่วยวางแผนทริปที่ทำให้ทุกเส้นทางเริ่มต้นได้เพียงปลายนิ้วคลิก

1. กรุงเทพฯ – เมืองหลวงแห่งการนับถอยหลังปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง

ทุกปี “Countdown กรุงเทพฯ” ยังคงครองตำแหน่งงานปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ จากลานหน้าห้าง ICONSIAM สุดหรูที่มีพลุกว่า 30,000 นัด ไปจนถึงลาน Central World ที่ขึ้นชื่อเรื่องการตกแต่งสถานที่ได้ตระการตาที่สุด และอีกที่หนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Asiatique ลานกว้างริมเเม่น้ำเจ้าพระยาที่เต็มไปด้วยผู้คนและเสียงเพลงที่จะอึกทึกไปทั่วริมฝั่งเเม่น้ำตลอดทั้งคืน

นอกจากสถานที่ที่เน้นความยิ่งใหญ่ตระการตาเเล้ว ผู้คนทั่วกรุงเทพฯทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ถนนและตรอกซอยน้อยใหญ่ หรือแม้แต่บ้านพักอาศัย ต่างก็จัดแต่งสถานที่เเละออกมาร่วมสร้างบรรยากาศที่คึกคักทั้วทั้งเมือง หากคุณไม่เเน่ใจว่าจะไปฉลองปีใหม่ทีไ่หนดี กรุงเทพฯจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเเน่นอน

2. เชียงใหม่ – เคาท์ดาวน์ท่ามกลางลมหนาวและภูเขา

บรรยากาศปีใหม่ของเชียงใหม่เต็มไปด้วยแสงไฟ ดนตรีสด หมอกเย็นๆ และกลิ่นหอมของอาหารพื้นเมือ ย่านนิมมานเหมินทร์คือจุดยอดฮิตสำหรับสายชิล ทั้งคนไทยเเละต่างชาติ ส่วนคนที่อยากได้ความสงบ แนะนำขึ้นดอยสุเทพหรือดอยอินทนนท์เพื่อชมพระอาทิตย์แรกของปี นอกจากนี้ เชียงใหม่ยังจัดงานฉลองปีใหม่ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งจะจัดเต็มไปด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินดังมากมายหลายคน รวมทั้งพลุสุดอลังการ เเละการแสดงแบบล้านนาอีกด้วย

การเดินทางจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่สามารถจองรถไฟนอนกลางคืนได้ ซึ่งมีตั้งเเต่ชั้นประหยัด ชั้นสอง และชั้นหนึ่งซึ่งให้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด หรือจะเลือกนั่งรถบัส หรือเที่ยวบินก็เป็นวิธีเดินทางที่นิยมของนักท่องเที่ยวเช่นกัน

3. พัทยา – พลุริมทะเลและงานปาร์ตี้สุดคึกคัก

“Pattaya Countdown” ติดอันดับงานปีใหม่ริมทะเลที่คนเยอะที่สุดในประเทศ ชายหาดพัทยาจะถูกแต่งด้วยไฟหลากสี พร้อมเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ศิลปินชื่อดังทั้งไทยและต่างชาติ และกิจกรรมเคาท์ดาวน์สุดมันส์ เหมาะกับสายปาร์ตี้ที่อยากฉลองปีใหม่พร้อมเสียงคลื่น แสงพลุ เสียงดนตรี เเละกลุ่มคนจำนวนมาก แนะนำให้เตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะความสนุกที่พัทยายาวนานข้ามคืนข้ามวันอย่างเเน่นอน

หากคุณเดินทางจากกรุงเทพฯมาพัทยา ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงด้วยรถบัสหรือรถตู้เท่านั้น เมื่อลงจากรถ รับรองว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงความคึกคักของพัทยาทันที!

4. ภูเก็ต – เมืองแห่งการเคาท์ดาวน์ริมทะเล 

ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาฉลองปีใหม่ริมทะเลใต้ “ภูเก็ต” คือคำตอบที่หลายๆคนเลือก ชายหาดป่าตองและหาดกะตะ จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มารอชมพลุเหนือทะเลสีคราม หลายๆรีสอร์ตยังจัดงานดินเนอร์สุดหรูพร้อมค็อกเทลและดนตรีสดใต้แสงดาวตั้งเเต่หัวค่ำเช่นกัน

คุณสามารถเลือกจองเที่ยวบินหรือรถบัสจากกรุงเทพฯไปภูเก็ตได้ทันทีที่ 12Go หรือจะต่อเรือไปเกาะพีพีหรือเกาะราชาได้ในแพลตฟอร์มเดียวกันได้เลย เราเเนะนำให้คุณรีบจองแต่เนิ่นๆ เพราะนักท่องเที่ยวหลายคนเลือกมาภูเก็ตเพื่อฉลองปีใหม่เช่นกัน

5. เชียงราย – รับแสงแรกที่ภูชี้ฟ้า

หนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในประเทศไทยคือ “ภูชี้ฟ้า” ทุกปีนักเดินทางหลายพันคนจะมานอนรอท่ามกลางลมหนาวเเละบรรยากาศสุดโรแมนติก เพื่อดูแสงแรกของปีใหม่ส่องผ่านทะเลหมอกเหนือขอบฟ้า หากใครต้องการบรรยากาศท้องถิ่น แนะนำให้ไปฉลองปีใหม่ที่หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ เพราะจะมีการแสดงดนตรีจากศิลปิน การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมของชุมชน อย่างเช่นการแสดงกลองสะบัดชัย มีการจุดพลุเฉลิมฉลอง และการปล่อยโคมไฟเพื่อความเป็นมงคลให้กับชีวิตด้วย 

หากคุณเดินทางจากเชียงใหม่มาเชียงราย จะใช้เวลาเพียงเเค่ประมาณ 3 ชั่วโมงด้วยรถตู้หรือรถบัส นอกจากนี้ ระหว่างทางยังสามารถแวะเที่ยววัดร่องขุ่นและวัดร่องเสือเต้นเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้อีกด้วย

6. เขาใหญ่ – เคาท์ดาวน์ท่ามกลางธรรมชาติ

สำหรับคนเมืองที่อยากพักกายเเละใจในอ้อมกอดของขุนเขา ธรรมชาติ เเละอากาศเย็นๆที่บริสุทธิ์ รวมถึงท้องฟ้ายามค่ำที่เต็มไปด้วยดาว “เขาใหญ่” คือจุดหมายที่ลงตัวที่สุด อากาศเย็นจัดยามเช้า มีหมอกคลอเคลียไร่องุ่น คาเฟ่สวยๆ และรีสอร์ตที่จัดงานปีใหม่เล็ก ๆแต่อบอุ่น เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความสงบเเละเเตกต่างจากบรรยากาศเมืองใหญ่

หลายๆคนเลือกที่จะขับรถเอง หรือถ้าไม่สะดวก เราเเนะนำให้นั่งรถตู้ซึ่งมีให้เลือกหลายรอบทุกวัน เหมาะกับทั้งครอบครัว คู่รัก หรือจะมาคนเดียวแล้วไปหาเพื่อนร่วมทางก็ได้เช่นกัน

7. หัวหิน – ปีใหม่ริมทะเลแบบโลคอล

หัวหินเหมาะกับคนที่อยากฉลองปีใหม่แบบสงบแต่ไม่เงียบจนเกินไป มีตลาดกลางคืน คาเฟ่ริมทะเล และงานเคาท์ดาวน์ที่จัดริมชายหาดโดยเทศบาลหัวหินทุกปี ใครอยากชมพลุพร้อมเสียงคลื่นเบาๆและอยากได้บรรยากาศแบบไทยๆ ต้องมาที่นี่เลย

เดินทางจากกรุงเทพฯมาหัวหิน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง มีตัวเลือกการเดินทางหลายแบบให้คุณเลือก ตั้งเเต่รถไฟ รถบัส และรถตู้ที่ให้บริการตลอดวัน หากคุณไม่ได้เตรียมฉลองปีใหม่ที่ไหนเเต่อยากออกจากเมือง การเลือกมาหัวหินเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีทีเดียว

8. เขาค้อ – ลมหนาว หมอกขาว และวิวสุดอลังการ

เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ คือที่เที่ยวปีใหม่สำหรับคนรักธรรมชาติ วิวภูเขาสลับซับซ้อนกับสายหมอก และโบสถ์พระธาตุผาซ่อนแก้วคือจุดชมพระอาทิตย์แรกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในไทย โดยเฉพาะที่จุดชมวิวเขาค้อ ซึ่งได้รับฉายาว่าเปรียบเสมือนสวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ต่างเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาโต้ลมหนาวและถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ ใครอยากนอนเต็นท์รับลมหนาวหรือจิบกาแฟท่ามกลางหมอก ต้องรีบจองที่พักและรถล่วงหน้า เพราะระยะทางจากกรุงเทพฯไปเขาค้อโดยรถส่วนตัวหรือรถบัส ใช้เวลาราวๆ 6-7 ชั่วโมง 

9. เกาะสมุย – ฉลองปีใหม่บนเกาะสวรรค์

ปีใหม่ที่เกาะสมุย เต็มไปด้วยความสนุกไม่แพ้เมืองใหญ่ ชายหาดเฉวงและบ่อผุดจะจัดปาร์ตี้ริมหาด แสงสว่างที่ตกแต่งตลอดชายหาดสร้างความมีชีวิตชีวาเเละบรรยากาศที่คึกคักตลอดทาง คุณคาดหวังได้เลยที่จะได้เจอผู้คนมากมายทั้งไทยและต่างชาติ ดนตรีสด คอนเสิร์ต การโชว์ไฟ และพลุเหนือท้องทะเล ในขณะเดียวกัน รีสอร์ตหรูหลายแห่งก็จัดดินเนอร์ใต้แสงดาวสำหรับคู่รักเเละครอบครัว แนะนำให้รีบจองแต่เนิ่นๆเพราะสมุยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

การเดินทางก็ง่ายมาก เพียงจองรถไฟหรือรถบัสจากกรุงเทพฯไปสุราษฎร์ธานี แล้วต่อเรือข้ามฟากไปสมุย หรือใครอยากประหยัดเวลาก็เลือกของเครื่องบินได้เลย สนามบินสมุยเป็นหนึ่งในสนามบินที่สวยที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน

10. แม่ฮ่องสอน – เริ่มต้นปีใหม่ท่ามกลางทะเลหมอก

ถ้าคุณอยากฉลองปีใหม่แบบเงียบสงบในอ้อมกอดธรรมชาติ แม่ฮ่องสอน คือคำตอบของคุณ ยามเช้าหมอกจะปกคลุมทั่วหุบเขา โดยเฉพาะที่ ปางอุ๋ง และ บ้านรักไทย ซึ่งมีบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เหมาะกับการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่นิ่งและสดใส อากาศโดยทั่วไปค่อนข้างเย็น บนยอดดอยบางพื้นที่อุณหภูมิอาจต่ำกว่า 15 องศา ถ้าเเพลนจะไปแม่ฮ่องสอน อย่าลืมเอาเสื้อกันหนาวเเละกล้องถ่ายรูปไปด้วย   

เส้นทางจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนสามารถจองรถบัสหรือรถตู้ได้เลย หากไม่อยากวุ่นวายเรื่องต่อรถหลายรอบ และอยากใช้เวลาไปกับการดื่มด่ำบรรยากาศของแม่ฮ่องสอนอย่างเต็มที่ คุณสามารถเลือกจองผ่าน 12Go ได้ง่ายๆผ่านแอพหรือเว็บไซต์ได้เลย 

การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีผู้คนจำนวนมาก แนะนำให้รีบจองล่วงหน้าสองถึงสามสัปดาห์ เตรียมเสื้อกันหนาวบางๆ และกล้องดีๆสำหรับเก็บเเสงแรกของปี และไม่ว่าคุณจะอยากฉลองอย่างครึกครื้นหรือเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ 12Go พร้อมพาคุณไปถึงทุกจุดหมายทั่วไทยอย่างง่ายดายและอุ่นใจทุกกิโลเมตร!