ทหารกัมพูชาเปิดฉาก ยิงถล่มทหารไทยในพื้นที่ชายแดนปราสาทตาควาย ช่องกร่าง และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ช่วงตี 4 อย่างหนักหน่วง เสียงจรวด BM-21 เสียงระเบิดดังไกลร่วม 100 กิโลเมตร ได้ยินถึงตัวเมืองสุรินทร์

ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ที่ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.48 น. ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชา เริ่มยิงจรวด BM-21 ถล่มทหารไทยในพื้นที่ชายแดนปราสาทตาควาย ช่องกร่าง และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พร้อมยิงปะทะกันอย่างหนักหน่วง เสียงปืนดังชัดเจนถึงหมู่บ้านในพื้นที่ ชาวบ้านสามารถอัดคลิปเสียงปืนที่ทหารไทยยิงตอบโต้ได้อย่างชัดเจน ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีพื้นที่พลเรือน หรือสถานที่ราชการได้รับความเสียหาย โดยทางอำเภอพนมดงรัก ได้แจ้งผ่านวิทยุสื่อสารให้ผู้นำหมู่บ้านและ ชรบ. เข้าหลุมหลบภัย 100% และมีเสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะๆ

มีรายงานว่า จรวด BM-21 ของกัมพูชายิงมาตกในพื้นที่หมู่บ้านสกล ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง ซึ่งอยู่ตรงข้ามช่องระยี ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง ที่มีการสู้รบอย่างหนักเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าตกจุดใด

...




ขณะที่บรรยากาศช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ชุด ชรบ.ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก ได้แบ่งกำลังออกตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยให้กับชาวบ้านที่อพยพออกไปอยู่ยังศูนย์พักพิง เพื่อเช็กว่ามีบ้านหลังที่ลืมปิดล็อกบ้านหรือลืมล็อกรถ ป้องกันเหตุลักขโมยทรัพย์สินชาวบ้าน โดยมีการออกตรวจตราทุก 2 ชั่วโมง ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ของไทยที่ยิงกดดันแนวรบตามหลักยุทธวิธีทางการทหารอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่ามีการเคลื่อนไหวของกองกำลังทหารฝั่งกัมพูชาพร้อมยุทโธปกรณ์ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (8 ธ.ค.) สามารถมองเห็นแสงกระสุนพุ่งแหวกบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนเดือนหงายได้อย่างชัดเจน โดยมีชาวบ้านที่อยู่ดูแลช่วยชุด ชรบ.ส่งเสียงเชียร์ทุกครั้งที่แสงไฟลูกกระสุนพุ่งผ่านไปยังเป้าหมาย พื้นที่ที่มีการเปิดฉากแนวรบกัน ทั้งช่องกร่าง พื้นที่ตำบลบักได และพื้นที่ติดกับปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก ก่อนที่การยิงกดดันแนวรบตามหลักยุทธวิธีทางการทหารของไทยจะหยุดในเวลา 22.30 น. ซึ่งสถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องดูท่าทีว่าทหารฝั่งกัมพูชา จะมาในรูปแบบไหนอีก ทั้งนี้ยังไม่พบมีรายงานความเสียหายและสูญเสียในพื้นที่




นอกจากนี้ เมื่อคืนค่ำและคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลปราสาท อ.ปราสาท รวม 4 คันได้ทยอยลำเลียงผู้ป่วยด้วยรถพยาบาลฉุกเฉินและรถกู้ชีพออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวในโรงพยาบาล อ.จอมพระ อ.ท่าตูม และ อ.ศีขรภูมิ พร้อมได้ประกาศปิดให้บริการทุกแผนก รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเหตุปะทะที่ผ่านมา ทหารกัมพูชาได้ยิง จรวด BM-21 มาถึงพื้นที่ ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท ใกล้กับตัวอำเภอปราสาทและโรงพยาบาลอีกด้วย

...




นอกจากนี้ เมื่อเวลาประมาณ 04.45 น. ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดน ได้ยินเสียงคล้ายปืนใหญ่และจรวด ดังมาถึงในตัวเมือง อ.เมืองสุรินทร์

โดยนาย สุพจน์ เหล่าดี อายุ 58 ปี ชาวบ้านที่ตื่นช่วงเช้าออกมาผิงไฟเพื่อรับความอบอุ่นในช่วงหน้าหนาว ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนนั้นได้ตื่นมาช่วงตี 3 กว่าๆ เพื่อมาจุดไฟผิงให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงอากาศหนาวเย็น บอกว่าตนนั้นได้นั่งผิงไฟอยู่ที่หน้าบ้านจนช่วงเวลาประมาณตี 4 กว่าๆ ได้ยินเสียง คล้ายเสียงจรวด BM-21 ดังมาจากทางชายแดน รัวมาหลายนัดมาก และเสียงดังมาถึงในตัวเมืองสุรินทร์ ซึ่งบ้านตนไปถึงแนวชายแดนนั้นห่างกันร่วม 100 กิโลเมตร เสียงยังดังไกลมาถึงนี่

...




นายสุพจน์ยังเล่าต่ออีกว่าช่วงปี 2554 นั้นตนก็ได้ยินเสียงเช่นนี้ดังแบบนี้ แต่ช่วงนั้นไม่ใช่ช่วงหน้าหนาว ส่วนตัวนั้นตนไม่กังวลที่จะมีเหตุร้ายมาถึงในตัวอำเภอเมืองสุรินทร์ เพราะตนนั้นมั่นใจในทหารไทยต้องปกป้องและสกัดอาวุธร้ายของทางกัมพูชาได้อย่างแม่นยำ ตนขอส่งกำลังใจให้ทหารไทยทุกคนและชาวบ้านอยู่ในเขตแนวชายแดนจงปลอดภัยคุณพระคุ้มครอง

ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์นั้น ก็คงได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงระเบิดดังเป็นระยะๆ จนถึงขณะนี้เวลาประมาณ 09.20 น.ก็ยังคงมีเสียงคล้ายระเบิดดังอยู่เป็นระยะๆ

...

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กัมพูชา ยังคงโจมตีชายแดนไทยด้วยจรวด 9M22U ที่ใช้กับ BM-21 Grad MLRS

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย เป็นพลทหาร สังกัด พัน ร.27 แขนขวาขาด จากเหตุปะทะในพื้นที่ชายแดนปราสาทตาควาย