เปิดขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียน ขอรับความช่วยเหลือ "เงินเยียวยาน้ำท่วม" ปี 2568 แบบเหมาจ่าย 9,000 บาทต่อครัวเรือน ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
จากกรณีที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายช่วยเหลือให้ผู้ประสบภัยให้แล้ว ได้กำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือ "ผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568" แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท จะเป็นการจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 4 รูปแบบ ดังนี้
1) ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
2) ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วันขึ้นไป
3) ที่อยู่อาศัยประจำที่ถูกน้ำล้อมรอบจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป
4) ที่อยู่อาศัยประจำในอาคารสูงที่น้ำท่วมไม่ถึงชั้นที่ผู้ประสบภัยพักอาศัย แต่ส่งผลกระทบให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป
ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยประจำดังกล่าวจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยจะต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ต้องผ่านการประชาคมหมู่บ้าน และจะต้องผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) ก่อนส่งข้อมูลให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินโอนเงินให้ผู้ประสบภัยต่อไป
วิธีลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม หรือลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ https://flood68.disaster.go.th/ โดยสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง
...
1. ลงทะเบียนผ่านออนไลน์
- คลิกแถบสีเหลือง "แบบคำร้อง ขอรับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในช่วงฤดูฝน 2568"
- กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน
- นำหลักฐานตัวจริงไปยื่นกับทางอบต./เทศบาล ในพื้นที่ (เน้นย้ำ...ต้องนำหลักฐานตัวจริงไปยื่นอีกครั้ง)
2. ลงทะเบียนผ่านแบบฟอร์ม (กรอกเอกสารไปยื่นด้วยตัวเอง)
- ดาวน์โหลดแบบคำร้อง (คลิกที่นี่)
- ยื่นเอกสารกับ อบต./เทศบาล หรือหน่วยงานที่รับเรื่องในพื้นที่
เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน / สัญญาเช่า / หนังสือรับรองการอยู่อาศัยจริงจาก อปท.
- กรณีเป็นที่พักอื่นๆ ให้กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชนร่วมกันลงนาม ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3
ที่มา : เว็บไซต์ DDPM, เฟซบุ๊ก Pr.Songkhla ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา