กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนับสนุนผลักดันธุรกิจสุราชุมชน พาผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน “เมรัยไทยแลนด์ 2025” ระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2568 เปิดประสบการณ์สุราแช่วิถีไทยมิติใหม่ ชูอัตลักษณ์การหมักและการกลั่นแอลกอฮอล์พื้นบ้าน ยกระดับความคราฟท์ ผลักดันการค้าสู่ตลาดยุคใหม่ เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ให้ผู้ประกอบการไทย สู่การเติบโตของธุรกิจสุราชุมชนอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ได้มอบหมายให้ นางสลิลา เทพเกษตรกุล ผู้อำนวยการกองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน นำผู้ประกอบการธุรกิจสุราชุมชนเข้าร่วมงาน “เมรัยไทยแลนด์ 2025” ระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ กรุงเทพฯ โดยครั้งนี้ นำเสนอธุรกิจสุราชุมชน สู่ความคราฟท์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด “THAI Craft Spirits from CHANTHABURI” ผสานอัตลักษณ์ของ 2 ผู้ประกอบการจังหวัดจันทบุรี ได้แก่ สุราชุมชน แบรนด์สุราเทวะ และ คราฟท์โซดา แบรนด์เดอะคราฟท์ ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นอยู่ที่การนำวัตถุดิบพื้นถิ่นจังหวัดจันทบุรี อาทิ เร่วหอม กระวาน ระกำ และโกโก้ มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สุราชุมชนและคราฟท์โซดา ต่อยอดสร้างสรรค์เป็นเมนูของเครื่องดื่มที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบฉบับของจังหวัดจันทบุรี หนึ่งเดียวไม่ซ้ำใคร
สำหรับการเข้าร่วมงาน “เมรัยไทยแลนด์ 2025” ในครั้งนี้ มุ่งเป้าสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้และมีทัศนคติเชิงบวกต่อสุราชุมชน รวมทั้งเปิดประตูให้ผู้ประกอบการธุรกิจสุราชุมชนได้พบปะนักลงทุน ผู้นำเข้า และผู้ซื้อจากต่างประเทศ ผลักดันขยายโอกาสทางการค้าผลิตภัณฑ์สุราชุมชนสู่เวทีนานาชาติอย่างมั่นคง ขยายผลให้เกิดการจ้างงานแก่คนในชุมชน การหมุนเวียนในตลาดเศรษฐกิจฐานราก สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน
“โดยสุราชุมชน ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นไทย ซึ่งมีรากฐานมาจากกระบวนการหมักและกลั่นตามวิถีพื้นบ้าน โดยใช้วัตถุดิบพื้นถิ่นในชุมชน เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย มะพร้าว หรือสมุนไพรพื้นถิ่น ซึ่งกรมฯ มีแผนพัฒนาและสนับสนุนศักยภาพทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการสุราชุมชนต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสุราชุมชนเติบโตอย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพทางธุรกิจ สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน และมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นสินค้าไทยที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ” อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวสรุป