ไฟไหม้บ้านลูกชายเจ้าของร้านซื้อของเก่าดับปริศนา พบศพเน่าก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ คาดสาเหตุจากโรคประจำตัว ต้องรอผลชันสูตรของแพทย์อีกครั้ง
จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 17 พ.ย. 68 ร.ต.อ.สุพัฒน์ สระประโคน รอง สว.สอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้าน ที่ร้านรับซื้อของเก่า ริมถนนไทรน้อย-ลาดบัวหลวง หมู่ 6 ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยพบว่าที่เกิดเหตุเป็นเพิงพัก ชั้นเดียวบริเวณด้านหลังร้านดังกล่าว ในห้องพบศพนายวุฒิพงษ์ อายุ 44 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน ช่วยรับซื้อของเก่าที่ร้าน สภาพถูกไฟไหม้
หลังเจ้าหน้าที่แพทย์เข้าตรวจสอบพบว่าศพมีการเน่าและอืดบวมก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ สงสัยว่าจะเสียชีวิตก่อนเหตุเพลิงไหม้ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แจ้งว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตก่อนเหตุเพลิงไหม้ ประมาณ 24 ถึง 48 ชั่วโมง
ล่าสุด วันที่ 18 พ.ย. 68 พ.ต.อ.ณัฏฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ ผกก.สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี กล่าวว่า จากกรณีที่ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้แล้วมีผู้เสียชีวิต ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าไฟไหม้บ้านเพิงพักลักษณะกระต๊อบที่แยกออกมาจากร้านค้าของเก่า ถูกไฟไหม้แล้วมีผู้เสียชีวิตคือนายวุฒิพงษ์ อายุ 44 ปี จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่นิติเวชและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุ
...
จากการตรวจสอบพบเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24-48 ชั่วโมง สภาพศพเริ่มเน่าแล้วถูกไฟไหม้ จากการสอบถามน้องสาวและน้องเขย บอกว่าเมื่อวันอาทิตย์ (16 พ.ย.) ผู้เสียชีวิตได้ออกมากินข้าวมื้อสุดท้าย จากนั้นไม่ได้พบอีกเลย เพราะเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผู้ตายปลูกกะต๊อบอยู่ต่างหาก โดยต่อสายไฟเข้าไปใช้สายไฟฟ้าเก่าๆ
วันนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ว่าเกิดจากอะไร และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ สอบถามพยานบุคคลน่าเชื่อว่าเหตุนี้เป็นลักษณะไฟฟ้าลัดวงจร แล้วมีผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ที่สภาพศพเน่า น่าเชื่อว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ มีพฤติกรรมเสพสารยาเสพติด เชื่อว่าเสียชีวิตก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ ส่วนญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เพราะผู้เสียชีวิตไม่สุงสิงกับทางญาติเท่าไหร่ มีพฤติกรรมมาเก็บตัวไม่ยุ่งกับใคร
ได้สอบปากคำไปแล้ว 2 ปากน้องสาวกับน้องเขยผู้ตายที่ไปช่วยดับไฟ ทั้งนี้ต้องรอผลการชันสูตรของแพทย์ว่าเสียชีวิตเพราะอะไร และผู้เสียชีวิตไม่ได้ทำประกันชีวิต ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตไม่ได้ทำประกันวินาศภัย ญาติไม่ติดใจแต่ครอบครัวเขาก็เสียใจ.