บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ตอกย้ำบทบาทผู้ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องระดับสากล ร่วมสนับสนุนการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ปี 2568 : International Conference on Biodiversity 2025 (IBD 2025) ภายใต้หัวข้อ “Biodiversity and Humanity in Global Crisis” หรือ “ความหลากหลายทางชีวภาพกับมนุษยชาติในยุควิกฤตโลก”

โดยภายในงาน EGCO Group ได้ร่วมจัดบูทนิทรรศการในหัวข้อ “พลังงานเพื่อชีวิต EGCO Group เส้นทางสู่เป้าหมายการปกป้องและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องในระดับสากล ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ ในยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า EGCO Group มีวิสัยทัศน์ในการเป็น “เป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพในทุก ๆ พื้นที่ที่ดำเนินกิจการรวม 7 ประเทศ ทั้งในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและสหรัฐฯ

ด้วยความเชื่อขององค์กรที่ว่า “ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี” EGCO Group มุ่งเน้นการควบคุมและลดผลกระทบเชิงลบจากกิจการ และเพิ่มผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะธุรกิจของ EGCO Group เป็นธุรกิจต้นทางที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า

EGCO Group ได้แสดงเจตจำนงด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานขั้นพื้นฐาน สำหรับโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว และโครงการใหม่ ๆ รวมถึงคู่ค้าที่ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทโดยตรงและคู่ค้าที่ไม่ได้ทำธุรกิจโดยตรง ให้มีแนวทางดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่สอดคล้องกันทั่วทั้งองค์กร รวมถึงประยุกต์ใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบตามลำดับขั้น นอกจากนี้ มีแนวทางปฏิบัติที่ดีในระดับสากลอ้างอิงนิยามประเภทพื้นที่และข้อกำหนดต่าง ๆ ขององค์การระหว่างประเทศเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตามที่ UNESCO ประกาศ

กว่า 33 ปีของการดำเนินธุรกิจ EGCO Group ได้ดูแลสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพผ่านโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโกอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่

1. การสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลสิ่งมีชีวิตรอบโรงไฟฟ้าที่บ่งชี้ความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ โรงไฟฟ้าขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จัดทำโครงการข้อมูลฐานสัตว์ และโครงการสำรวจสัตว์หน้าดินบริเวณชายหาดขนอม

2. การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศของสัตว์ป่า พื้นดิน และแหล่งน้ำ โดยโรงไฟฟ้าขนอมได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดโครงการ “คืนป่าชายเลนบ้านดอนหาร สานสัมพันธ์ชุมชน” ที่ได้ปลูกป่าชายเลนมากกว่า 10 ชนิด จำนวน 700 ต้น โรงไฟฟ้า Quezon และโรงไฟฟ้า San Buenaventura ในประเทศฟิลิปปินส์ มีโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยสามารถช่วยเหลือเต่าทะเลไปแล้วกว่า 85 ตัว นับตั้งแต่ปี 2550

3. การปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในกลุ่มพนักงาน ชุมชน และประชาชนในท้องถิ่น ในทุกพื้นที่ที่ดำเนินธุรกิจ

EGCO Group ยังขับเคลื่อนการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทยผ่าน “มูลนิธิไทยรักษ์ป่า” องค์กรสาธารณกุศลที่ EGCO Group ก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2545

ภายใต้หนึ่งในภารกิจที่สำคัญ คือ การปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติในเยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ผ่านโครงการพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มูลนิธิฯ ได้พัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำเร็จเรียบร้อย 10 เส้นทาง ในอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช ชัยภูมิ ระหว่างปี 2558 – 2567 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงเส้นทางยอดดอยปุย ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ที่จะส่งมอบเส้นทางให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเปิดดำเนินการได้ในสิ้นปีนี้

สำหรับการประชุมวิชาการนานาชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ปี 2568 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5-7 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติร่วมเป็นเจ้าภาพหลัก และมีหน่วยงานเกี่ยวข้องด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศร่วมจัดงาน วัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ในปี 2568 และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างประชาคมนักวิจัยของไทยและต่างประเทศด้านความหลากหลายทางชีวภาพในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านวิจัยและวิชาการ การอนุรักษ์ การป้องกัน การฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนเพื่อหาแนวทางความร่วมมือในระดับสากล