เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคมได้จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และประกอบพิธีปลงผมนาคของผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท บวชชีพรหมโพธิ และปฏิบัติธรรมถือศีล 8 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ก่อนที่คณะจะออกเดินทางไปประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบท ณ ดินแดนพุทธภูมิ สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ 14–25 พฤศจิกายน 2568

บรรยากาศภายในวัดราชบพิธเต็มไปด้วยความสงบงาม โดยเริ่มลงทะเบียนและให้ญาติโยมเข้าสักการะพระบรมราชสรีรังคารในช่วงเช้า ตามด้วยการประชุมผู้เข้าบรรพชา การถ่ายภาพหมู่ และพิธีขลิบผมนาคอย่างเป็นทางการ จากนั้น พระพรหมวชิรโพธิวงศ์ ได้เมตตาประกอบพิธีปลงผมแก่ผู้สมัครบวช ท่ามกลางความตั้งใจของผู้เข้าร่วมโครงการและญาติพี่น้องที่มาร่วมอนุโมทนา

เวลา 13.45 น. คณะได้จัดพิธีถวายราชสักการะและถวายพระพรชัยมงคล ต่อด้วยการเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล และในเวลา 14.00 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จถึงสถานที่ประกอบพิธี ทรงประทานพระโอวาทและประทานไตรจีวรแก่ผู้เข้าบรรพชาทุกท่าน

ในโอกาสนี้ นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ รองประธานและเลขาธิการมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ได้กราบทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระประมุข และเพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช อีกทั้งมีเป้าหมายสืบสานพระพุทธศาสนา ส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญ บำเพ็ญจิต และเรียนรู้หลักธรรมอย่างถูกต้อง

ภายหลังเสร็จพิธีถวายเครื่องไทยธรรมและถ่ายภาพหมู่ภายในพระอุโบสถ ผู้เข้าร่วมโครงการได้เตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปยังพุทธคยา พาราณสี ลุมพินี กุสินารา และเวสาลี เพื่อปฏิบัติศาสนกิจและตามรอยสังเวชนียสถานทั้งสี่ อันเป็นจุดกำเนิดและเส้นทางตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือของมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ร่วมกับโครงการไมล์สร้างบุญ และบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 โดยมีคณะสงฆ์จากวัดไทยพุทธคยาและคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมากร่วมกำกับดูแล เพื่อให้การบรรพชาอุปสมบทและการปฏิบัติธรรมเป็นไปโดยถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยและเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ

พิธีทั้งหมดจัดขึ้นอย่างสง่างาม เรียบง่าย และเปี่ยมด้วยความศรัทธา แสดงถึงพลังความร่วมมือของพุทธศาสนิกชนที่มุ่งมั่นสืบทอดพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่สังคมไทยตลอดไป