นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล เลขาธิการสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พร้อมทั้งนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณคณะรัฐมนตรี (ครม.) สำหรับมติเห็นชอบนโยบายและมาตรการนำเข้ากากถั่วเหลือง ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2569-2571 ซึ่งการอนุมัติที่รวดเร็วนี้เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยให้ภาคธุรกิจปศุสัตว์คลายความกังวล และสามารถวางแผนการนำเข้ากากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงก่อนที่ประกาศฉบับปัจจุบันจะหมดอายุลง

ท่านเลขาธิการฯ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, คณะรัฐมนตรี, และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ได้เร่งรัดการดำเนินการจนสำเร็จ การกำหนดนโยบายนำเข้ากากถั่วเหลืองเป็นคราวละ 3 ปี เช่นนี้ จะช่วยสร้างความต่อเนื่องในการบริหารจัดการการนำเข้าระหว่างปี และลดภาระงานของภาครัฐ ได้อย่างมีนัยสำคัญ

มาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้ WTO สู่การเปิดตลาดพร้อมเงื่อนไขดูแลเกษตรกร

นอกจากกากถั่วเหลืองแล้ว ครม. ยังได้อนุมัติมาตรการการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) และข้าวสาลี สำหรับการผลิตอาหารสัตว์ ประจำปี 2569 การเปิดตลาดในครั้งนี้กำหนดปริมาณโควตาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไว้ที่ 1 ล้านตัน โดยมีอัตราภาษีร้อยละ 0 ซึ่งอนุญาตให้องค์กรคลังสินค้า (อคส.) และผู้นำเข้าทั่วไปสามารถนำเข้าได้ เป็นไปตามมติที่ประชุมจากคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 และสอดคล้องกับข้อตกลงไทย-สหรัฐอเมริกา ที่ต้องการให้เปิดตลาดสินค้าเกษตรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จนกระทั่งได้รับการปรับลดภาษีส่งออกสินค้าไทยไปยังสหรัฐอเมริกาเหลือ 19%

...

การเปิดตลาดดังกล่าวได้ผ่านการหารืออย่างเข้มข้นภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างหลักประกันในเชิงปริมาณและราคา เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในประเทศ

มาตรการหลักที่ถูกกำหนดขึ้นคือผู้นำเข้าข้าวโพดภายใต้กรอบ WTO จะต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศในปริมาณ 3 ส่วน ต่อการนำเข้า 1 ส่วนก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าผลผลิตของเกษตรกรไทยจะถูกจำหน่ายออกไปทั้งหมด

ตอกย้ำราคาและปริมาณที่รับซื้อต้องเป็นไปตามเกณฑ์กระทรวงพาณิชย์

เงื่อนไขที่สำคัญของการรับซื้อข้างต้น คือการรับซื้อต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2568/2569 ซึ่งกำหนดให้ราคารับซื้อข้าวโพดความชื้น 14.5% ณ หน้าโรงงานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ 9.80 บาท/กิโลกรัม และสำหรับผู้รวบรวมต้องรับซื้อข้าวโพดความชื้น 30% ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในราคา 7.05 บาท/กิโลกรัม โดยมีการปรับลดตามระยะทางสำหรับจังหวัดอื่น

ท่านเลขาธิการฯ ได้ชี้แจงว่า ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทยมีปีละกว่า 9 ล้านตัน ในขณะที่มีผลผลิตในประเทศเพียง 4.5-5 ล้านตัน จึงต้องนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านเฉลี่ยปีละ 1.5-2.0 ล้านตัน นำเข้าข้าวสาลีเฉลี่ยปีละ 1.5-1.6 ล้านตัน เมื่อนำตัวเลขทั้งสองส่วนมาบวกกันแล้ว ถือว่าประเทศไทยยังขาดแคลนข้าวโพดอีกจำนวน 0.4-1.0 ล้านตันต่อปี

การนำเข้าข้าวโพดภายใต้กรอบ WTO พร้อมเงื่อนไขการซื้อข้าวโพดไทย 3 ส่วนก่อนนำเข้า 1 ส่วนนั้น ไม่ใช่การเพิ่มจำนวนการนำเข้า แต่เป็นการเปลี่ยนทางเลือกจากการนำเข้าข้าวสาลี มาเป็นการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในกรอบ WTO แทน จึงขอให้เกษตรกรทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง

สมาคมฯ หนุนเต็มที่ หลักประกันราคาเพื่อความเป็นธรรม

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยประกาศสนับสนุนการบังคับใช้ประกาศกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อสร้างความเป็นธรรมด้านราคา ให้แก่เกษตรกรในทุกพื้นที่ ประกาศดังกล่าวถือเป็นหลักประกันราคา ที่คำนึงถึงต้นทุนการผลิต ค่าขนส่ง และผลกำไรที่เหมาะสมของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด และไม่สร้างภาระต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เกินควร

“ประกาศฉบับนี้เป็นหลักประกันราคาข้าวโพดของเกษตรกรไทย ซึ่งมีที่มาจากต้นทุนเฉลี่ยของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด บวกค่าขนส่ง และบวกผลกำไร ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถอยู่ได้ และไม่เป็นภาระต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ จึงอยากให้มีการดำเนินการลักษณะนี้ในทุกปี”

...

ทางสมาคมฯ ขอยืนยันที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงพาณิชย์อย่างเคร่งครัด เพื่อดูแลและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในประเทศดังเช่นที่เคยปฏิบัติมาโดยตลอด

สำหรับมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ล่าสุดปี 2569 ที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบ ซึ่งเน้นการบริหารจัดการอุปสงค์และอุปทานของวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศให้เกิดความสมดุล ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมีรายละเอียดที่ชัดเจน 3 ประเด็นดังนี้

1. มาตรการ "ปลอดการเผา" แก้ไขปัญหา PM2.5

  • กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดให้ผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต้องขึ้นทะเบียนรายปี และต้องแสดงหลักฐานว่าสินค้าดังกล่าวมาจากกระบวนการผลิตที่ปลอดการเผา เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ข้ามพรมแดน 
  • ในช่วงแรก ผู้นำเข้าไทยอาจใช้การรับรองตนเองได้ว่าสินค้านำเข้ามาจากแหล่งที่ไม่เผา หรือใช้เอกสารจากหน่วยงานรัฐของประเทศผู้ส่งออก

2. โควตานำเข้าภายใต้กรอบ WTO และเงื่อนไขรับซื้อในประเทศ

  • กำหนดปริมาณนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO ไว้ที่ 1 ล้านตัน (ปรับเพดาน) โดยมีอัตราภาษีในโควตาร้อยละ 0 ซึ่งอนุญาตให้องค์กรคลังสินค้า (อคส.) และผู้นำเข้าทั่วไปดำเนินการได้
  • ผู้นำเข้าที่ต้องการขออนุญาตนำเข้าภายใต้โควตานี้ ต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศในปริมาณ 3 ส่วน ต่อการนำเข้า 1 ส่วน โดยต้องแสดงหลักฐานการรับซื้อจากเกษตรกรและเป็นไปตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ

3. การกำหนดราคารับซื้อเพื่อคุ้มครองเกษตรกร ตามประกาศ 2568/2569

  • มาตรการนำเข้าข้างต้นจะเชื่อมโยงกับการใช้ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ประจำปี 2568/69 ซึ่งเป็นหลักประกันราคาผลผลิตให้กับเกษตรกร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2568 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2569

...