สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำยังท่วมขัง 11 อำเภอ ถนนสายบางบาล-ผักไห่ เริ่มกระทบถูกน้ำท่วม จึงขอเตือนผู้สัญจรให้ใช้ความระมัดระวัง
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปรับการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน เพิ่มสูงขึ้นมาในอัตรา 2,900 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย ยังคงท่วมสูง เริ่มกระจายวงกว้าง ถนนสายหลักหลายสาย น้ำเริ่มล้นตลิ่งท่วมพื้นผิวการจราจร 11 อำเภอที่ยังได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูง ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน อำเภอบางซ้าย อำเภอบ้านแพรก อำเภอลาดบัวหลวง และอำเภอมหาราช
ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตำบลวัดยม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเริ่มมีการระบายน้ำลงทุ่งบางบาล ตามประตูระบายน้ำต่างๆ ในพื้นที่ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย มีปริมาณมาก ไหลเข้าสู่ทุ่งต่างๆ ทั้งหมดอยู่นอกคันกั้นน้ำ และไหลเข้าท่วมทุ่งแก้มลิง หรือทุ่งรับน้ำ
...
โดยพบว่าที่ทุ่งผักไห่ น้ำที่ระบายเข้ามาส่งผลให้ระดับในทุ่งเริ่มสูงขึ้น ไหลเอ่อเข้าท่วมทางหลวงหมายเลข 3412 หรือถนนสายบางบาล-ผักไห่ เป็นช่วงๆ ตลอดเส้นทาง น้ำท่วมผิวจราจรสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นสายหลักจากอำเภอผักไห่ มาอำเภอบางบาล เข้าสู่ตัวเมืองอยุธยา รถยนต์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สัญจรไปมากันอย่างยากลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการนำป้ายมาแจ้งเตือน อย่างไรก็ตาม ขอให้รถบรรทุกที่ใช้เส้นทางดังกล่าวลดความเร็วในช่วงน้ำท่วม เพื่อลดผลกระทบกับเพื่อนร่วมทาง
เช่นเดียวกับถนนทางหลวงหมายเลข 3445 หรือถนนสายเสนา-ผักไห่ น้ำท่วมขยายวงกว้างล้นข้ามถนนแล้วเช่นกัน เจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวง กำลังเร่งแก้ไขโดยการปั้นคันดินเพื่อทำการระบายน้ำออกจากผิวการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน รถยนต์ขนาดเล็กที่จะวิ่งผ่านเส้นทางดังกล่าว ให้เพิ่มความระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำที่ท่วมอยู่ในขณะนี้ เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน