"โรม" รุกหนักปราบสแกมเมอร์ เรียก "ชนนพัฒฐ์" แจงปมถูกอายัดทรัพน์ 159 ล้าน พร้อมจี้นายกฯ ต้องจริงจังเรื่องนี้ ถามอุ้มรัฐมนตรีไม่ยอมปลดมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ขู่ถ้าซักฟอกจบแน่
วันที่ 12 พฤศจิกายน นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เปิดเผยว่า กมธ.ได้เชิญนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม มาชี้แจงในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เกี่ยวกับการถูกยึดอายัดทรัพย์สิน 159 ล้านบาท ในคดีเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ เบื้องต้นนายชนนพัฒฐ์ตอบรับจะเข้าชี้แจง
นายรังสิมันต์ระบุว่า ในการประชุม กมธ. วันนี้ (12 พ.ย.) จะพิจารณาเรื่องสแกมเมอร์ต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่บริษัทฮุยวัน ซึ่งเชื่อว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับเงินคริปโตที่ได้จากการกระทำความผิดและเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ แต่การยึดอายัดทรัพย์สินยังไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ยังเตรียมเชื่อมโยงไปยังบุคคลชื่อ “ฮุน โต” ลูกพี่ลูกน้องกับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมองว่าถึงเวลาที่ไทยต้องรุกหนักในการปราบปรามสแกมเมอร์ เนื่องจากผู้มีอำนาจในกัมพูชาหลายคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการเหล่านี้ รวมถึงเครือข่ายไทยเทาในประเทศที่ต้องเร่งปราบปรามอย่างเด็ดขาด
ประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ ยังกล่าวถึงกรณีการยึดทรัพย์นายชนนพัฒฐ์ว่า ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญที่นักการเมืองไทยถูกดำเนินคดีอย่างจริงจังตามกฎหมาย แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการยึดทรัพย์เพียง 159 ล้านบาท อาจดูน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับลักษณะธุรกิจเว็บพนันที่เป็นเครือข่ายกับแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งมักมีเงินจำนวนมหาศาล นายรังสิมันต์เชื่อว่าทรัพย์สินที่แท้จริงอาจมีมูลค่ามากกว่านี้
นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบว่ากับพวกที่ถูกกล่าวถึงในข่าวมีนักการเมืองคนอื่นอีกหรือไม่ รวมถึงติดตามว่ามีการยักย้ายทรัพย์สินในรูปแบบอื่น เช่น คริปโตเคอร์เรนซี (สกุลเงินดิจิทัล) ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ ออกไปก่อนที่ ปปง. จะอายัดหรือไม่ ซึ่งในการชี้แจงในวันที่ 13 พฤศจิกายน จะให้ ปปง. มาชี้แจงในประเด็นนี้ด้วย
...
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ขอตั้งคำถามไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าากระทรวงมหาดไทยว่า มีความจริงจังในการปราบปรามสแกมเมอร์แค่ไหน เพราะไม่เชื่อว่านายอนุทินจะไม่รู้ว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง และควรมาช่วยกันปราบปรามมากกว่าการโต้ตอบ และรัฐบาลควรปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเบน สมิธ ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีต้องรับรู้เรื่องนี้
“ถ้าคุณอนุทินไม่ดำเนินการปัญหาเรื่องสแกมเมอร์จะไม่มีทางจบ กระแสกดดันที่มีต่อนายกรัฐมนตรีจะเพิ่มสูงขึ้น และเกิดคำถามว่าทำไมนายกรัฐมนตรีต้องอุ้ม ร.อ.ธรรมนัส แปลว่าอะไร ทำให้รู้สึกว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนบางอย่าง” นายรังสิมันต์กล่าวและท้าให้ ร.อ.ธรรมนัสมาชี้แจงต่อกรรมาธิการเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายรังสิมันต์กล่าวทิ้งท้ายถึงการพิจารณาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในประเด็นสแกมเมอร์ว่า พร้อมหารือกับพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดเพื่อวางยุทธศาสตร์ โดยมองว่าเรื่องทุนสีเทาเป็นเรื่องร้ายแรงระดับโลก การที่รัฐบาลไม่ดำเนินการจะทำให้สังคมตั้งคำถามว่า มีเอี่ยวด้วยหรือไม่ และหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจริง จะต้องมีการออกแบบให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนและต้องเอาให้สำเร็จ เพราะใช้กลไกนี้ได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น