เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านรับซื้อของเก่า ริมถนนเทพารักษ์ กม.23 ย่านบางเสาธง วอดเสียหาย พบภายในร้านมีถังสี ทินเนอร์ และวัตถุไวไฟจำนวนมาก
เวลา 18.00 น. ของวันที่ 11 พ.ย. 68 พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สว.(สอบสวน) สภ.บางเสาธง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านรับซื้อของเก่า ในพื้นที่ ม.17 ถ.เทพารักษ์ กม.23 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หน่วยบรรเทาสาธารณภัย รถดับเพลิงจากเทศบาลบางเสาธง อบต.บางเสาธง อบต.บางเพรียง และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นร้านรับซื้อของเก่า ลักษณะปลูกเป็นโกดังชั้นเดียว ในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ พบมีแสงเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงที่บริเวณด้านหลังร้าน กลุ่มควันพวยพุ่งเหนือท้องฟ้า ภายในร้านมีถัง 200 ลิตร ถังสี ทินเนอร์และวัตถุไวไฟจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำและโฟมเร่งดับไฟใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้
จากการสอบถาม เจ้าของร้าน อายุ 62 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนทำงานอยู่ในร้านด้านหลัง ส่วนลูกสาวขายของอยู่หน้าร้าน โดยขณะที่ตนใช้หินเจียตัดถัง 200 ลิตร เพื่อทำเตาปิ้งย่าง สะเก็ดไฟได้กระเด็นไปโดนถังสี ที่ตนเตรียมไว้ทาสี มันก็เลยติดไฟเกิดเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนพยายามใช้น้ำดับไฟแต่ไม่ทัน จึงรีบโทรแจ้งดับเพลิง โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
...
ขณะที่ นายประเสริฐ ชูเกตุ อายุ 53 ปี หัวหน้างานป้องกันงานบรรเทาภัยเทศบาลบางเสาธง บอกว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีไฟไหม้ร้านรับซื้อของเก่า พอมาถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้จากทางด้านหลัง น่าจะในส่วนของถังแอมโมเนียที่อยู่ด้านหลัง เนื่องจากระหว่างดับไฟ ทางนักดับเพลิงได้กลิ่นของแอมโมเนียกระจายออกมา ก็เลยเร่งดับด้านหลัง ก่อนจะไล่คุมไปถึงด้านหน้า เพราะด้านหน้าเป็นถังสีน้ำเงินที่เห็นอยู่ก็ไม่รู้ว่าเป็นถังอะไร ก็เลยคุมด้านหน้าไว้ก่อน ส่วนด้านหลังก็มีส่วนหนึ่งของทีมงานก็ดับอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็คือว่าเราใช้โฟมเพื่อควบคุมอากาศทั้งหมด และก็ควบคุมไฟทั้งหมดตอนนี้เพลิงก็อยู่ในวงจำกัดและสงบหมดแล้ว โดยใช้ถังโฟมทั้งหมดเพื่อควบคุมเพลิงที่เกิดเหตุ ใช้เวลาในการดับเพลิงประมาณ 40 นาที
เบื้องต้น พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ พนักงานสอบสวน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบถามเจ้าของร้าน ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ประสานงานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนความเสียหายต้องรอประเมินต่อไป.
