รอง ผอ.สำนักงานเขตฯ แสดงความเสียใจเหตุ เด็กชายวัย 5 ขวบ ถูกไฟฟ้าช็อตดับในสนามเด็กเล่นโรงเรียนที่ จ.บุรีรัมย์ สั่งกำชับทุกสถานศึกษาเข้มงวดความปลอดภัย เร่งตรวจสอบอย่างละเอียด-ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต
วันที่ 6 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เด็กชายอัศวิน หรือ น้องโมเดล อายุ 5 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ขณะเล่นเครื่องเล่นชิงช้าบริเวณลานกลางแจ้งภายในโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 68 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังขาให้กับชาวบ้าน และครอบครัวของน้องโมเดลเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการกล่าวอ้างว่า ที่ผ่านมาจุดเดียวกันเคยมีคนถูกไฟฟ้าช็อตมาแล้วหลายครั้ง แต่กลับไม่ได้รับแก้ไขจุดที่ไฟรั่ว
ขณะที่ ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้กล่าวว่า เบื้องต้นทางโรงเรียนได้พยายามจะช่วยเหลือเยียวยา ด้วยการเบิกเงินประกันชีวิตอุบัติเหตุจากบริษัทประกันภัย เมื่อถามถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และเคยมีชาวบ้านมาแจ้งแล้วแต่ไม่มีการซ่อม ผอ. ตอบว่า ไม่เคยมีใครมาแจ้ง
...
ความคืบหน้าล่าสุด นายบรรพต สรวนรัมย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติของน้องโมเดล เป็นอย่างยิ่งที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ เหตุมันเกิดขึ้นทางเราต้องมีส่วนรับผิดชอบตามกระบวนการ และหาทางช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว
เบื้องต้น เด็กจะได้รับเงินประกันชีวิต จากบริษัทประกันชีวิตจำนวนเงิน 100,000 บาท ครูในโรงเรียนที่น้องเรียนอยู่อีก 10,000 บาท และเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 อีก 30,000 บาท แต่ยังจะหาแนวทางช่วยเหลือเต็มความสามารถเพื่อให้กำลังใจครอบครัวเด็ก
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟรั่ว มีหลายปัจจัยซึ่งจะต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด โดยโรงเรียนก็เหมือนกับที่อื่นๆ ที่เป็นสถานที่เปิด ปกติก็จะมีวัยรุ่น เยาวชนภายในหมู่บ้านมาเล่นกีฬา ตั้งแต่หลังเลิกเรียนหรือวันหยุด ซึ่งทางโรงเรียนก็ให้บริการ และสนามก็จะมีการเปิดไฟช่วงเย็น แต่ในบางครั้งบางที อาจจะมีการเผลอเรอ ไม่ได้ปิดไฟตรงนี้ และอาจจะเป็นช่วงรอยต่อที่คุณครูกลับบ้าน จึงเกิดเป็นช่องว่าง ไม่มีใครไปดูแลส่วนตรงนี้ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการกำชับให้ทุกโรงเรียนกวดขันอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นมาอีก เพราะมาตรการความปลอดภัยของเด็ก และการเรียนการสอน ทางเขตฯ ให้ถือเป็นเรื่องแรกอยู่แล้ว