"กองทัพภาคที่ 1" ย้าย "พลทหารพีรพล" ประจำการหน่วยทหารใกล้บ้าน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลพ่อป่วยโรคไตที่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง
วันที่ 2 พ.ย. 2568 เฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่ 1 โพสต์ข้อความโดยระบุว่า "กรณีที่มีชายไทยได้รับคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการผลัดที่ 2 ประจำปี 2568 ซึ่งอาศัยอยู่กับบิดาเพียงลำพัง และมีโรคประจำตัวต้องเข้ารับการฟอกไต มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิสายไหมต้องรอดนั้น
...
ทางกองทัพภาคที่ 1 ได้รับทราบข้อมูลและตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าชื่อ พลทหารพีรพล แซ่แต้ ภูมิลำเนาทหาร ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ อยู่กับบิดาเพียงลำพัง ซึ่งป่วยเป็นโรคไต และต้องเข้ารับการรักษาโดยการฟอกไตอย่างต่อเนื่อง โดย พลฯ พีรพล ได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2568 ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการรับรายงานตัวของทหารใหม่ ก่อนเข้าประจำการ ณ มณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี ในวันที่ 1 พ.ย. 2568 ตามระเบียบของการเข้ารับการรายงานตัวของทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 พร้อมกันทั่วประเทศ
โดย พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับทราบข้อมูลและได้สั่งการให้ดำเนินการปรับย้าย พลฯ พีรพล มาประจำการในหน่วยทหารใกล้บ้าน คือ กองพันทหารสื่อสารที่ 1 ซึ่งมีที่ตั้งบริเวณแขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้าน พลฯ พีรพล ประมาณ 30 กิโลเมตร เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไปเยี่ยมดูแลบุพการีในห้วงเวลาพักหลังปฏิบัติภารกิจได้
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ สัสดี อ.พระสมุทรเจดีย์ ประสานกับส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อร่วมกันดูแลบิดาของพลฯ พีรพล แบบสหวิชาชีพต่อไป โดยในวันนี้ (2 พ.ย.) ทางคณะสัสดี อ.พระสมุทรเจดีย์ ได้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวก พาบิดาของพลฯ พีรพล เข้ารับการรักษาฟอกไตตามแพทย์นัด และประสาน อสม. ที่รับผิดชอบในพื้นที่ร่วมกันดูแล เพื่อลดความกังวลให้กับบุตรซึ่งไปทำหน้าที่ในการเป็นทหารกองประจำการ ทั้งนี้ กองพันทหารสื่อสารที่ 1 จะดำเนินการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกับครอบครัวทหาร ในห้วงประจำการในภาพรวมตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 ได้ดำเนินการดูแลกำลังพลในทุกระดับ ตามแนวทางของกองทัพบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ความสำคัญกับการดูแลทหารกองประจำการ ซึ่งถือเป็นน้องเล็กของกองทัพ ทั้งในเรื่องสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ ตลอดจนการช่วยเหลือครอบครัวที่ประสบปัญหาต่างๆ ตามความเหมาะสม เพื่อให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจ มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป".
ขอบคุณเฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่ 1