"อดีตช่างภาพ" เผยความประทับใจในการตามเสด็จ "สมเด็จพระพันปีหลวง" ครั้งเยือนจังหวัดอุบลราชธานี
นายปัญญา แพงเหล่า ข้าราชการบำนาญ อดีตรับหน้าที่เป็นช่างภาพที่คอยตามเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เปิดเผยความทรงจำและความประทับใจในการตามเสด็จแต่ละครั้งว่า ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ตนมีโอกาสได้ตามเสด็จพระองค์ท่านหลายครั้ง เมื่อปี 2519 ช่วงนั้นเรียน ปวช. ตนมีกล้องถ่ายรูปแล้วตนได้โอกาสเฝ้ารับเสด็จที่ทุ่งศรีเมือง มีโอกาสได้บันทึกภาพในการประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ภาพที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจิมศาลหลักเมือง ตนเองเป็นผู้ที่บันทึกภาพด้วยตัวเอง และได้ส่งภาพให้กับสำนักราชเลขา หอจดหมายเหตุเก็บเอาไว้ และยังติดไว้ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลราชธานีทุกวันนี้
...
ต่อมาในปี พ.ศ.2536 ตนได้รับมอบหมายให้เป็นช่างบันทึกภาพในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ชาสุภัทโท ณ วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และออกติดตามพระราชกรณียกิจในพื้นที่ชายแดนโรงเรียนต่างๆ เช่น ศูนย์ศิลปาชีพ บ้านยางน้อย ศูนย์ศิลปาชีพที่อำเภอบุณฑริก ศูนย์ศิลปาชีพอำเภอโขงเจียม ซึ่งภาพเหล่านี้ก็บางส่วนก็ได้บันทึกภาพไว้ ส่วนหนึ่งที่ยังอยู่ในความทรงจำและก็น้อมสำนึกในพระมหาคุณอย่างสูง
สำหรับความประทับใจ ตนจดจำพระราชจริยวัตรอันงดงาม พระองค์เสด็จที่บุณฑริก ตอนนั้นตนอยู่ห่างจากพระองค์ประมาณ 5 เมตร ได้รับฟังพระสุรเสียงเวลาตรัสกับประชาชนด้วยความนุ่มนวล อ่อนหวาน โดยเฉพาะท่านจะชอบตรัสสอบถามประชาชนเรื่องผ้าไหม ว่าผ้าไหมนี่ทำยังไง เลี้ยงยังไง แล้วเอาไปขายยังไง ได้ยินประมาณนี้ และใครรับซื้อบ้าง มีคำหนึ่งที่จำได้ท่านบอกว่า เดี๋ยวจะดู เดี๋ยวจะดูแลให้
ดังนั้นทางชาวบ้านก็ถวายผ้าไหมแด่พระองค์ท่าน อันนี้ทำให้น้ำตาแทบไหลเพราะว่าเห็นพระองค์พูดกับประชาชน ไม่ถือพระองค์ ทำให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่างเราได้มีโอกาสได้รับใช้เบื้องยุคลบาท ได้บันทึกภาพตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาจึงมีความสำนึกในพระมหาคุณที่ท่านได้มีเมตตากับชาวอุบลราชธานีและพี่น้องชาวไทย
ตอนเห็นข่าวสมเด็จพระพันปีหลวงสวรรคต ตนรู้สึกเสียใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเราได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมนำโครงการพระราชดำริต่างๆ มาปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นส่วนตัว หรือส่วนราชการ แล้วก็ขยายผลไปยังประชาชน จึงทำให้สำนึกว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยเฝ้ารับเสด็จและใกล้ชิด อีกหลายครั้งก็เฝ้ารับเสด็จตามวาระต่างๆ ก็รู้สึกเสียใจมาก พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านยังจะจดจำอยู่ในจิตใจของเราตลอดไป และจะน้อมนำปณิธานต่างๆ รวมทั้งโครงการต่างๆ ไปขยายผลให้กับพี่น้องประชาชนและเผยแพร่พระเกียรติคุณของท่านให้มีความเจริญก้าวหน้าให้พสกนิกรชาวไทยได้น้อมนำและปฏิบัติตนเป็นคนดีตลอดไป.