อบอุ่นมาก ประชาชนหลั่งไหลร่วมฟังเรื่องราวจาก "ทายาทรุ่นสุดท้าย" คุณยายเชื้อสายอยุธยา หลังได้กลับแผ่นดินบรรพบุรุษในรอบ 260 ปี

วันที่ 18 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดภูเขาทอง ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เต็มไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้ง เมื่อมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมรับฟังเรื่องราวของ "คุณยายดอตินทวย" อายุ 83 ปี ทายาทรุ่นที่ 7 ของชาวอโยธยาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 ซึ่งเดินทางกลับมายังแผ่นดินบรรพบุรุษอีกครั้งจากเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา (ทายาทรุ่นสุดท้าย ที่ถูกต้อนเป็นเชลยไปพม่า ได้กลับแผ่นดินบรรพบุรุษในรอบ 260 ปี)

...

สำหรับตลอดทั้งวันที่ 17-18 ต.ค.ที่ผ่านมา คุณยายพร้อมคณะได้เดินทางตามเส้นทางประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดแรกที่คุณยายได้เหยียบแผ่นดินไทย พร้อมหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ จากนั้นได้เดินทางไปสักการะโบราณสถานสำคัญ เช่น วัดพระราม อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา และสถานที่อื่น ๆ ตามเส้นทางที่บรรพบุรุษของคุณยายเคยเล่าให้ฟัง ถ่ายทอดกันรุ่นต่อรุ่นราวกับเป็นมรดกทางความทรงจำ

ในคณะผู้ร่วมเดินทางกลับบ้านครั้งนี้ มี MARGAINA เจ้าอาวาสวัดจากมัณฑะเลย์, ZAW WIN ผู้ใหญ่บ้านชุมชนอโยธยาในเมียนมา และ TIN NYUNT (ดอตินย๊วด) ซึ่งเป็นญาติสนิทและผู้ดูแลคุณยายดอตินทวย เดินทางมาร่วมด้วย

ขณะที่บรรยากาศช่วงเย็นของวันนี้เป็นไปด้วยความอบอุ่น ประชาชนจากหลายจังหวัดหลั่งไหลมาร่วมให้กำลังใจและร่วมรับฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตจริง ผ่านน้ำเสียงของคุณยายดอตินทวย ซึ่งกล่าวด้วยน้ำตาซึมว่า "ซาบซึ้งใจมากที่คนไทยให้การต้อนรับอบอุ่นเหมือนคนในครอบครัว"

ส่วนกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "พาชาวบ้านสุขขะ" จัดโดย นายปัณณพัทธิ์ คำนึง นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงอดีตสู่ปัจจุบัน นำพาทายาทชาวอยุธยาในต่างแดน กลับมาสัมผัสบ้านเกิดบรรพบุรุษอีกครั้งในรอบ 260 ปี ภายในงานยังมีการเสวนาสื่อสารผ่านล่าม ถ่ายทอดเรื่องราวบรรพบุรุษที่เล่าต่อกันมาหลายรุ่น และไฮไลต์ของงานคือการที่คุณยายพูดภาษาไทยให้ฟังว่า "ดีใจมากค่ะ ขอบคุณค่ะ" ท่ามกลางเสียงปรบมือและน้ำตาแห่งความยินดีจากผู้ร่วมงาน ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่เพียงเป็นการเดินทางกลับบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการกลับมารื้อฟื้นความทรงจำร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ

สำหรับ วัดภูเขาทอง เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะเมืองอยุธยา สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 ต่อมาในปี พ.ศ. 2112 หลังอยุธยาเสียกรุงให้แก่พระเจ้าบุเรงนอง เจดีย์ขนาดใหญ่ในวัดถูกสร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบมอญ-พม่า และภายหลัง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอกราช ได้ทรงบูรณะเจดีย์ให้เป็นแบบไทย ปัจจุบันเป็นหนึ่งในโบราณสถานสำคัญ ที่สะท้อนรอยต่อทางประวัติศาสตร์ระหว่างไทย-พม่าได้อย่างชัดเจน

ทางด้าน นายไพศาล วิสุทธิศาลวงศ์ ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยว่า เห็นว่ามีคนอยุธยาในสมัยก่อนไปเป็นเชลยศึกในสมัยกรุงศรีอยุธยา 260 ปี ก็เลยมาดูเพราะตัวผมเอง ผมเคยไปหมู่บ้านซูกาและมัณฑะเลย์ ไปดูเทวรูปที่เอาจากวัดมหาธาตุเราไป และตนก็ยังเดินทางไปหมู่บ้านของคุณยายด้วย วันนี้เห็นว่าคุณยายเดินทางมาด้วย ก็เลยต้องมาดู ในฐานะที่ผมเป็นคนไทย ผมเห็นว่าคนไทยยิ้มไหว้และทักทายกัน คุณยายเขาก็เป็นคนไทย ขนาดคนอื่นชาติอื่นเรายังต้อนรับและยิ้มไหว้ทักทายอย่างดี คุณยายคนไทยด้วยกันเราก็ต้องต้อนรับอย่างดีเหมือนกัน

...

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ 19 ต.ค. 2568 เวลา 08.00 น. ทางคุณยายพร้อมคณะอำลาพระนครศรีอยุธยา จะเดินทางกลับขึ้นเครื่องบินสนามบินดอนเมือง เพื่อกลับประเทศพม่าต่อไป.