เนื่องในวันไข่โลก (World Egg Day) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ย้ำถึงคุณประโยชน์ของไข่ไก่ และส่งเสริมให้คนไทยบริโภคไข่เพิ่มขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดี โดยตั้งเป้าหมายการบริโภคไว้ที่ 300 ฟองต่อคนต่อปี
ดร.ปัทมาภรณ์ อักษรชู นักโภชนาการชำนาญการพิเศษ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย เผยว่า ไข่ไก่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าสูงและจำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น
- มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ช่วยในการเจริญเติบโตของเด็ก และป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและกระดูกในวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
- อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามิน B1, B2, B6, A, D, E รวมถึงแคลเซียมและฟอสฟอรัส
- มีสารอาหารเฉพาะในไข่แดง เช่น เลซิติน (Lecithin) ที่ช่วยบำรุงสมอง รวมถึงลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) สารสำคัญที่ช่วยในการมองเห็น และป้องกันปัญหาสายตา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ไข่ไก่จะมีประโยชน์ แต่สถิติการบริโภคของคนไทยยังค่อนข้างต่ำ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 236 ฟองต่อคนต่อปี ในขณะที่ประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่นบริโภคเฉลี่ย 323 ฟองต่อคนต่อปี และฮ่องกง 432 ฟองต่อคนต่อปี
...
ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการตั้งเป้าไว้ให้คนไทยบริโภคไข่ไก่เฉลี่ย 300 ฟองต่อคนต่อปี ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมาย กรมอนามัย จึงส่งเสริมและรณรงค์ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คนไทยบริโภคไข่ไก่ให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ฟอง พร้อมแนะนำปริมาณการบริโภคที่เหมาะสมสำหรับแต่ละกลุ่มวัย ดังนี้
- เด็กเล็ก (6 เดือน) ควรบริโภคไข่แดงบดครึ่งฟองทุกวัน
- เด็กเล็ก (7 เดือน) ควรบริโภคไข่แดงครึ่งฟองวันเว้นวัน
- เด็กเล็ก (8 - 12 เดือน) ควรบริโภคทั้งไข่ขาวและไข่แดงขนาดครึ่งฟอง เป็นเวลาวันเว้นวัน
- เด็กอายุ 1 - 5 ขวบ, วัยเรียน, วัยรุ่น, วัยทำงาน, ผู้สูงอายุ ที่ร่างกายแข็งแรง, หญิงตั้งครรภ์ ควรบริโภคไข่ทั้งฟอง จำนวน 1 ฟองต่อวัน
ที่ผ่านมาหลายคนอาจมีความกังวลเรื่องคอเลสเตอรอลในไข่แดง ที่ส่งผลให้คอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้ แต่ความจริงแล้วนั้น ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี สามารถกินไข่ได้วันละ 1 ฟอง หากต้องการกินมากกว่าวันละ 1 ฟอง ควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ส่วนผู้มีปัญหาสุขภาพ เช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง ควรบริโภคไข่ไก่เพียง 3 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
นอกจากนี้ควรบริโภคไข่สุก เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมอาหารได้เต็มที่ เพราะร่างกายย่อยไข่ดิบได้ยาก อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย ซาลโมเนลลา ที่ทำให้อาหารเป็นพิษ และเกิดอาการท้องร่วงได้
การบริโภคไข่ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือ “ไข่ต้มสุก” เพื่อเลี่ยงการปรุงรสและการใช้น้ำมันทอดอาหาร ควรกินอาหารที่หลากหลายให้ครบ 5 หมู่ทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ รวมทั้งออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่กันไปด้วย
สำหรับวิธีการเก็บรักษาไข่ไก่ให้อยู่ได้นานและถูกวิธี เพื่อคงความสดใหม่และยืดอายุไข่ไก่ให้ได้นานที่สุด สามารถทำได้ดังนี้
1. การเก็บไข่ในตู้เย็นจะช่วยยืดอายุความสดได้มากกว่าการเก็บที่อุณหภูมิห้อง
2. ควรวางไข่โดยให้ด้านป้านหงายขึ้น และด้านแหลมลง เพื่อให้ไข่แดงอยู่ตรงกลาง ไม่ไปติดกับเปลือกด้านบน ซึ่งจะช่วยให้ไข่แดงไม่เสียรูปทรงและเก็บได้นานขึ้น
3. ควรเก็บไข่ไว้ในกล่องเดิม หรือในชั้นวางไข่ที่อยู่ด้านในตู้เย็น ไม่ควรเก็บที่ประตูตู้เย็น เนื่องจากอุณหภูมิที่ประตูมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยเมื่อเปิด-ปิด ทำให้ไข่เสียเร็วขึ้น
...
4. ไม่ควรล้างเปลือกไข่ก่อนนำไปเก็บ เพราะจะทำให้สารเคลือบธรรมชาติบนเปลือกไข่หลุดออกไป ซึ่งเป็นตัวป้องกันไม่ให้เชื้อโรคและแบคทีเรียแทรกซึมเข้าไปในไข่ได้ ควรล้างก่อนนำมาปรุงอาหารเท่านั้น
นอกจากนี้ยังไม่ควรเก็บไข่รวมกับอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะเปลือกไข่มีรูพรุนเล็กๆ อาจดูดซับกลิ่นจากอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม หรือเครื่องเทศได้