ชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว ซักซ้อมแผนอพยพเน้นกลุ่มเปราะบาง เตรียมความพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน ผู้ว่าฯ สระแก้ว เผย สิ่งที่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า

วันที่ 12 ต.ค. 68 พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. ได้เน้นย้ำการนำนโยบายที่ได้รับมอบจาก พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะรอง ผอ.รมน. ในการปฐมนิเทศผู้บริหาร กอ.รมน. ประจำปี 2569 ให้เร่งขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติในพื้นที่ ในการให้ กอ.รมน.จังหวัดชายแดนเตรียมพร้อมการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานปกครองในท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ส่วนหลัง

โดยในวันนี้ เวลา 10.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน เพื่อเตรียมซ้อมแผนอพยพประชาชนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 

...

การซักซ้อมครั้งนี้ให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก ให้ได้รับการอพยพเป็นลำดับแรก พร้อมกำหนดเส้นทางและจุดรวมพลชัดเจน จัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับเหตุฉุกเฉิน ตรวจสอบอุปกรณ์และความพร้อมอย่างรอบด้าน มุ่งเน้นความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก 

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อใด แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า 

ทั้งนี้ กอ.รมน. ขอแสดงความยืนหยัดเคียงข้างประชาชน พร้อมบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มกำลัง และส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ทุกคนมั่นใจในความปลอดภัยและความพร้อมรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ

โดยการฝึกซ้อมแผนครั้งนี้ เป็นการจำลองสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนอำเภอโคกสูง ซึ่งนำไปสู่การอพยพประชาชนจาก 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภอวัฒนานคร และอำเภอคลองหาด ไปยังศูนย์พักพิงจังหวัดสระแก้ว โดยมีหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นร่วมควบคุมการเคลื่อนย้ายและดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

สำหรับความเคลื่อนไหวในสถานการณ์ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบว่าในช่วงเช้า ผู้นำชุมชนก็ได้ซักซ้อมแผนอพยพตามประกาศของจังหวัดสระแก้ว โดยได้นำตัวแทนผู้นำชุมชน ชาวบ้านจำนวน 5 คนร่วมการซักซ้อม นำโดยนางสมพร เพชรจิตต์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหญ้าแก้ว มาร่วมซักซ้อมแผนอพยพเสมือนจริง ตั้งแต่ยกสัมภาระที่จัดเตรียมใส่กระเป๋าไว้ออกจากบ้าน แล้วมาที่หลุมหลบภัยในชุมชน และเข้าไปหลบในหลุมหลบภัย เพื่อรอสัญญาณ จากนั้นเมื่อปลอดภัยก็จะไปขึ้นรถเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์อพยพในพื้นที่ที่ทางการเตรียมเอาไว้

หลังจากนั้นเมื่อถึงป้ายทาง จุดพักพิงชั่วคราวที่ปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ชาวบ้านที่ซักซ้อมอพยพมาต่างพากันยกกระเป๋าของตนเองลงจากรถ พร้อมกับหยุดเวลาที่จับช่วงที่มีการเดินทางเอาไว้ปรากฏว่าแค่บ้านหนองหญ้าแก้วเดินทางมาที่จุดพักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว 98 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 38 นาที 24 วินาที

หลังจากนั้นก็เข้าไปลงทะเบียนที่จุดอำนวยการ โดยนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนด้วย ก่อนจะถูกจำแนกชาวบ้านออกตามจุดที่มีการจัดเอาไว้ อาทิ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งสถานที่รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ทุกศูนย์ทางฝ่ายความมั่นคงยืนยันมีความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นจริง

...


ด้านนางสมพร เพชรจิตต์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหญ้าแก้วบอกว่า วันนี้เป็นการซ้อมทีมผู้นำและชาวบ้าน เมื่อซ้อมเรียบร้อยแล้วจะมาประชาสัมพันธ์บอกชาวบ้านว่า ใช้เส้นทางไหนจุดหมายอยู่ไหน และให้เตรียมบัตรประชาชนเพื่อเอาไว้เข้าศูนย์พักพิง ซึ่งกลุ่มที่อพยพเป็นกลุ่มแรก คือกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ โดยผู้ป่วยติดเตียงในชุมชนบ้านหนองหญ้าแก้วมี 2 ราย ซึ่งเขาก็จะแจ้งความประสงค์ก่อนว่า จะอพยพหรือไปอยู่บ้านญาติหรือไม่ ส่วนผู้สูงอายุในชุมชน ส่วนใหญ่ก็มักจะไปอยู่บ้านญาติ และอีกส่วนก็จะเฝ้าทรัพย์สินที่บ้าน

ทั้งนี้ ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อเดือน ก.ค. ทางชุมชนเคยซ้อมอพยพใหญ่ไปแล้ว และวันนี้เป็นการซักซ้อมเพื่อทบทวนว่ายังมีความรู้รอบตัวหรือไม่ และพร้อมอพยพหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวไว้ โดยทางชุมชนเราจะมีไลน์กลุ่มเพื่อแจ้งการเตรียมตัวกับชาวบ้านว่า ให้เก็บข้าวของมีค่า ไม่ต้องเยอะและเอกสารสำคัญเตรียมไว้ และหากมีหน่วยงานแจ้งให้อพยพก็จะแจ้งกลุ่มไลน์หมู่บ้านทันที

ส่วนรถที่จะใช้ ใครมีรถส่วนตัวก็จะไปล่วงหน้าก่อน ส่วนใครไม่มีรถก็มาจุดรวมพลของหมู่บ้าน เพื่อมาหลุมหลบภัยก่อนแล้วเมื่อปลอดภัยก็จะย้ายไปศูนย์อพยพโดยการซักซ้อมวันนี้ ขณะเดินทางจะใช้ความเร็วประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อไปถึงที่หมาย

...

ด้านนางคิม ศิริอรุนวงค์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า วันนี้เธอมาพร้อมกับหลานสาว ซึ่งตัวหลานสาวก็ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าใส่ไว้ในกระเป๋า ซึ่งเป็นผ้าขนหนูคู่ใจ วันนี้ได้มีโอกาสซักซ้อมการอพยพเสมือนจริงจึงให้หลานสาวเข้ามาซักซ้อมในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

นางคิมบอกอีกว่า ก่อนจะเดินทางมาซักซ้อม ก็ทำทุกอย่างเหมือนจริง เก็บเอกสารสำคัญ เก็บเสื้อผ้า ยารักษาโรค ก็ตื่นตัวกับสถานการณ์ตลอดเวลา ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่กังวลอะไรมาก เพราะเตรียมความพร้อมแล้ว แต่สิ่งที่กังวลใจไปกว่านั้นคือการใช้ชีวิต จะไปเลี้ยงวัว เก็บของป่า ก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้พื้นที่ที่กัมพูชายึดเอาไว้ได้ เพราะเสี่ยงอันตราย จึงอยากให้ดำเนินการเคลียร์พื้นที่ให้เสร็จโดยเร็ว