เทคโนโลยีและ AI กำลังเข้ามาพลิกโฉมทุกอุตสาหกรรม รวมไปถึงความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจหากวันนี้เราได้เห็นทุกวงการผนึกกำลังกันเพื่อปรับตัวและพัฒนาให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น สำหรับอุตสาหกรรมความงาม กัลเดอร์มา (Galderma) ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านการดูแลผิวและความงามระดับโลกตลอดระยะเวลากว่า 45 ปี ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากการสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมความงามให้แข็งแกร่ง ผ่านการส่งเสริมการยกระดับศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และพนักงานทุกระดับของธุรกิจคลินิกความงาม เพราะกัลเดอร์มาเชื่อว่าความร่วมมือของทุกฝ่ายคือพลังขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
GAIN BUSINESS 2025 : เชื่อมต่อองค์ความรู้และเติบโตร่วมกัน
กัลเดอร์มา ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมความงาม พร้อมวางบทบาทเป็นผู้เชื่อมโยงและขับเคลื่อนวิทยาการด้านความงามและองค์ความรู้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ความงาม เทคโนโลยีและนวัตกรรมความงามใหม่ๆ ไปจนถึงการวางกลยุทธ์การตลาด การขาย และการสร้างประสบการณ์ เพื่อขยายขีดความสามารถใหม่ๆ ให้กับพันธมิตรและบุคลากรที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน ทั้งแพทย์ ผู้บริหาร นักการตลาด และพนักงานทุกระดับของคลินิกความงาม โดยมี “GAIN” (Galderma Aesthetic Injector Network) เป็นเครือข่ายศูนย์กลางในการรวมองค์ความรู้และเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้คลินิกพันธมิตรของกัลเดอร์มาแลกเปลี่ยนแนวคิดใหม่ๆ ผ่านการจัดสัมมนา GAIN BUSINESS อย่างต่อเนื่อง โดยวางหัวข้อการสัมมนาให้หลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ต่อยอดความรู้ไปสู่การพัฒนาบริการ และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 4 ฟอรัมหลัก ได้แก่
- GAIN BUSINESS
- GAIN BUSINESS Academy
- GAIN BUSINESS Service Lead Sales
- GAIN BUSINESS CEO Forum
ความน่าสนใจของเวที GAIN BUSINESS คือ ความร่วมมือระหว่างกัลเดอร์มาและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งแพทย์ด้านความงามชั้นนำของประเทศไทยและระดับสากล นักวิชาการ นักการตลาด นักธุรกิจต้นแบบ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มาร่วมพัฒนาหลักสูตรและแชร์องค์ความรู้ ประสบการณ์ที่สอดคล้องกับเทรนด์และทิศทางของตลาดความงามในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำกลับไปประยุกต์ใช้ได้จริง สะท้อนถึงความตั้งใจในการเสริมศักยภาพและสร้างความสำเร็จให้คลินิกพันธมิตรอย่างแท้จริง
สำหรับปี 2025 นับเป็นอีกปีที่ธุรกิจความงามต้องเร่งก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความต้องการที่ซับซ้อนขึ้น ไปจนถึงความท้าทายจากการมาถึงของ AI และเทคโนโลยีดิจิทัล ในปีนี้ GAIN BUSINESS โดย กัลเดอร์มา จึงได้จัดขึ้นอีกครั้ง ภายใต้คอนเซปต์ “Together, Shaping The Next Aesthetic Possibilities” โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขา ร่วมถ่ายทอดความรู้ในประเด็นน่าสนใจอย่างมากต่อธุรกิจความงามยุคนี้
จับตาเทรนด์การตลาดอนาคตผ่าน GAIN BUSINESS
หัวข้อ NEXT-ERA AESTHETICS : Transforming Clinics Through AI & Strategic Storytelling คือประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในงานสัมมนา GAIN BUSINESS 2025 เพื่อเปิดมุมมองใหม่ให้กับการตลาดและการบริหารคลินิกความงามในอนาคต โดยมีสองกูรูการตลาดชื่อดัง ผศ. ดร. เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด และประธานหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณรวิศ หาญอุตสาหะ นักธุรกิจชื่อดังผู้ปลุกแบรนด์ศรีจันทร์และนักสร้างคอนเทนต์การตลาด ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำความรู้จักผู้บริโภคในเชิงลึก พร้อมนำเสนอแนวคิด NEXT Marketing ที่มุ่งให้ธุรกิจความงาม รุกตลาดมากกว่าการตั้งรับ ทั้งนี้ เทรนด์ความงามมาแรงปี 2025 ที่น่าจับตา ได้แก่เทรนด์ “Proactive Beauty” แนวคิดการดูแลผิวเชิงป้องกัน ผ่านการดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ และดูแลผิวจากภายใน มากกว่าการรักษาหรือแก้ไข รวมถึงเทรนด์ “Cancelling Age” แนวคิดที่ทำให้ “อายุ” ไม่ใช่กรอบจำกัดของความงามอีกต่อไป ซึ่งนั่นชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้ต้องการจะดูเด็กลง แต่เน้นการคงสภาพผิวให้ดูสุขภาพดี แลดูอ่อนเยาว์ และมีความเป็นธรรมชาติเหมาะกับแต่ละช่วงวัย
โดยสองกูรูแนะนำว่าเมื่อเข้าใจเทรนด์แล้ว ก็ควรเข้าใจผู้บริโภคให้ลึกซึ้งด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ NEXT-ERA AESTHETICS ยุคที่ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อบริการด้านสุขภาพและการดูแลตัวเอง และเป็นยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งในแง่การเพิ่มศักยภาพการทำงานของนักการตลาด และการยกระดับการลงทุนด้านนวัตกรรมให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น AI, IoT หรือ Biotechnology ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยกระดับการสร้างประสบการณ์ตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้า โดยเฉพาะ AI ที่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งการวิเคราะห์อินไซต์ผู้บริโภค การทำ Personalized Marketing การจองคิว-ให้ข้อมูลด้วย Chatbot ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีจำลองใบหน้าก่อนและหลังการทำหัตถการ
เหนืออื่นใด แนวคิด NEXT Marketing สำหรับธุรกิจความงามในมุมมองของนักการตลาดยังคงหมายถึงการสร้าง Storytelling ที่ทรงพลัง ด้วยกลยุทธ์ “Education-Driven Content Marketing” ที่เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะธุรกิจคลินิกความงามที่ต้องสร้างภาพลักษณ์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาที่ผู้บริโภคสามารถไว้วางใจได้ พร้อมแนะนำการสร้าง Storytelling 3 แนวทาง ได้แก่ 1) ถ่ายทอดด้วยหลักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ 2) สร้างทัศนคติใหม่ว่า การดูแลผิวทำได้ทุกวัย และ 3) ใช้ภาพและวิดีโอ ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
จากบทบาทของ AI ถึงการตอบสนองด้วยบริการที่ตรงใจ
การมาถึงของ AI ที่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญและเป็นคำที่คนยุคนี้เอ่ยถึงจนติดหู แฝงอยู่ในหลากหลายวงการ ทั้งที่เรารู้ตัวและอาจไม่รู้ตัว คำถามคือ…
แล้วในอุตสาหกรรมความงาม AI อยู่ในจุดไหน? มีบทบาทอย่างไร? และเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้บริโภค?
เรื่องนี้ คุณศิเวก สัจเดว ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและที่ปรึกษา AI Transformation ร่วมถ่ายทอดแนวทางการใช้ AI เพื่อเสริมศักยภาพให้คลินิกความงามก้าวทันยุคดิจิทัล พร้อมพลิกโฉมการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ผ่าน GAIN BUSINESS Academy ภายใต้หัวข้อ “Revolutionizing Customer Engagement in Aesthetics with AI - ยกระดับความสามารถด้านเครื่องมือ AI ปรับตัวสู่ยุคเทคโนโลยีอัจฉริยะ” โดยชี้ให้เห็นว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือช่วยเสริมการทำงาน แต่คือ “กุญแจสำคัญ” ในการสร้างความแตกต่างและยกระดับการบริการให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวก รวดเร็ว และประสบการณ์เฉพาะบุคคล ตั้งแต่การใช้ AI วิเคราะห์และเชื่อมโยง Persona ของกลุ่มลูกค้าเข้ากับผลิตภัณฑ์, แบ่งกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน, การสร้างคอนเทนต์, วางแผนแคมเปญ และลดขั้นตอนการทำงานซ้ำซ้อนด้วยเครื่องมือ AI ที่เหมาะกับงานแต่ละประเภท, การยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วย AI Chatbot ไปจนถึงการวิเคราะห์ตลาดและจัดการข้อมูลด้วยเครื่องมือต่างๆ อาทิ NotebookLM
พร้อมพลิกประสบการณ์ลูกค้าในคลินิกความงามด้วย “บริการเหนือระดับ”
แม้เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ยังคงสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจความงามก็คือ “การบริการ” เพราะสามารถยกระดับประสบการณ์ธรรมดาสู่ความประทับใจ ความภักดี และช่วยต่อยอดการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ กัลเดอร์มา จึงมุ่งยกระดับศักยภาพด้านการบริการและการสื่อสารให้กับทีมบริการลูกค้าและทีมการตลาด ผ่านเวที GAIN BUSINESS Service Lead Sales โดยเน้นโปรแกรมเสริมทักษะ 3 หัวข้อ ได้แก่
1) Beauty Planner Playbook พลิกบทบาท Beauty Consultant สู่การเป็น Beauty Planner มืออาชีพ
ว่าด้วยกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ลูกค้าอย่างครบวงจร โดยเริ่มต้นจากเข้าใจโจทย์ความต้องการ 4 ปัจจัย อันได้แก่ งบประมาณ, อารมณ์ (Emotion / Self-esteem / Confidence), เทรนด์สังคม และคุณภาพและความปลอดภัย ผ่านหลักการ ฟัง-ถาม-บอก-แนะนำ เพื่อให้เข้าใจ Persona ของผู้รับบริการตั้งแต่ Need ความต้องการพื้นฐาน - Want ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงขึ้น - Demand ความต้องการบริการที่ตอบปัญหาได้อย่างเหมาะสมกับงบประมาณ ผ่านทัศนคติที่ต้องเป็นทั้ง Proactive และ Reactive ที่พร้อมให้คำแนะนำและรับฟัง ควบคู่กับการสื่อสารอย่างมืออาชีพเพื่อรับมือกับคำปฏิเสธได้อย่างมั่นใจ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและนำไปสู่การตัดสินใจใช้บริการ นอกจากนี้ยังแนะนำ การเพิ่มยอดขายด้วยเทคนิค Cross-Selling ผ่านเทคนิค Push & Pull นั่นคือ Push ว่าด้วยการผลักความกลัวออกไปด้วยการรับฟัง เข้าใจ และแนะนำในจังหวะที่เหมาะสม และ Pull คือการดึงความต้องการซื้อด้วยแผนที่ตอบโจทย์ Pain Point เฉพาะของลูกค้า
2) ยกระดับทักษะการสื่อสารเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในทุกขั้นตอน
มุ่งเน้นการเข้าใจผู้รับบริการแต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง เช่น ผู้รับบริการที่ต้องการการจดจำรายละเอียด, ผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และ VVIP ที่ต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษ พร้อมสร้างความมั่นใจและ Loyalty Customer ผ่านข้อมูลและตัวเลข และการให้คำแนะนำที่เหมาะสมและทางเลือกที่หลากหลาย ไปจนถึงการสร้างคุณค่าเชิง Functional และ Emotional จากคุณภาพผลิตภัณฑ์ มาตรฐานสากล และประสบการณ์แบรนด์ที่เหนือระดับ นำไปสู่โอกาสในการ Cross-Selling และ Up-Selling อย่างเป็นธรรมชาติ
3) ปั้นแบรนด์ให้โดดเด่น และขับเคลื่อนยอดขายด้วย TikTok
TikTok แพลตฟอร์มสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในการสร้างแรงบันดาลใจและการตัดสินใจของผู้บริโภคในยุคนี้ การเข้าใจวิธีสื่อสารบนแพลตฟอร์มนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจาก TikTok ได้นำเสนอแนวทาง 3R Creative Framework สำหรับสร้างคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ Recut การปรับวิดีโอให้เป็นไปตามรูปแบบของ TikTok ลดความเป็นทางการ ข้อมูลชัด กระชับ เข้าใจง่าย และดึงดูดความสนใจตั้งแต่เฟรมแรก, Remix การเติมความครีเอทีฟและอินเทรนด์ให้คอนเทนต์ดูสนุก ผ่านเพลง หรือ Storytelling ที่น่าติดตาม และ Reimagine การใช้ฟีเจอร์ เอฟเฟกต์ และลูกเล่นของ TikTok เพิ่มความน่าสนใจให้คอนเทนต์ แนวทางเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์สื่อสารกับผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างทั้งการรับรู้และยอดขายได้พร้อมกัน
GAIN BUSINESS CEO Forum มองแบบนักบริหารในวันที่โลกเปลี่ยนไป
การผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสร้างยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ สามารถขับเคลื่อนทั้งองค์กรและบุคลากรให้เติบโตไปพร้อมกัน กัลเดอร์มา จึงเปิดเวที GAIN BUSINESS CEO Forum กับหัวข้อ SHAPE UP & GLOW ON Aesthetics Business in AI Era by People & Profitability Management โดยเชิญกูรูชั้นนำของไทยมาร่วมแบ่งปันความรู้และแนวทางการบริหารธุรกิจในยุค AI ให้กับคลินิกพันธมิตร
ผศ. ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ได้นำเสนอ 3 กลยุทธ์บริหารธุรกิจเพื่อสร้างผลกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ Less but More: น้อยแต่มาก นั่นคือ การวางกลยุทธ์ราคาและมอบบริการที่ตรงใจตั้งแต่ครั้งแรก, Deep but Wide: ลึกแต่กว้าง คือการเจาะลึกลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างมีประสิทธิภาพ จึงค่อยต่อยอดและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ผ่านการบอกต่อความประทับใจ, Quiet but Loud: เงียบแต่ดัง ผ่านการใช้เครื่องมือ AI ในการทำโฆษณากระตุ้นการขายที่มีข้อความที่ตรงใจ ส่งไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในช่องทางที่เหมาะสม และใช้เครื่องมือให้ตรงกับประเภทของงาน อาทิ การใช้เครื่องมือ Rytr คิดชื่อและสโลแกน, Deepbrain สร้างพรีเซนเทชัน, HeyGen สำหรับเปลี่ยนภาษาพูดในคลิปวิดีโอ, Microsoft Designer สำหรับสร้างภาพและคอนเทนต์กราฟิก และ Google Performance Max สำหรับยิงโฆษณา โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารเชิงกลยุทธ์ในยุคการแข่งขันสูง
นอกจากการจัดการเชิงกลยุทธ์และเทคโนโลยีแล้ว ศักยภาพของบุคลากรก็มีส่วนอย่างมากในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ให้เกิดผลจริง คุณอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา ผู้ก่อตั้ง Slingshot Group เผยมุมมองว่าสำหรับธุรกิจบริการอย่างคลินิกความงาม ความสำเร็จไม่ได้วัดเพียงความพึงพอใจของลูกค้า แต่ต้องสามารถสร้างความประทับใจเกินความคาดหวัง ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและเหนือความคาดหมาย ซึ่งต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ที่ชัดเจน บุคลากรที่มีความสามารถ และวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน การผสานทั้งหมดนี้จึงช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้า พร้อมพาธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและแตกต่างจากคู่แข่ง
นอกจากนี้ คุณจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MAGURO Group ยังมาถ่ายทอดประสบการณ์จริงตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจ แนวทางการวางกลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้แตกต่างและเป็นที่รู้จัก การขยายธุรกิจ และขับเคลื่อนธุรกิจจนเติบโตเป็นบริษัทมหาชน พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้บริหารเพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จร่วมกันอีกด้วย
เวที GAIN BUSINESS สะท้อนจุดยืนกัลเดอร์มา ยกระดับบุคลากรและธุรกิจ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงามอย่างไร้ขีดจำกัด
การจัดงาน GAIN BUSINESS คือ ความมุ่งมั่นของกัลเดอร์มา ในการร่วมผลักดันอุตสาหกรรมความงามไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพราะงานนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแบ่งปันองค์ความรู้ เทรนด์ และกลยุทธ์ใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น
- การพัฒนาศักยภาพบุคลากรทุกระดับในอุตสาหกรรมความงาม ตั้งแต่พนักงาน แพทย์ นักการตลาด ไปจนถึงผู้บริหาร
- การเสริมทักษะและความรู้ที่ครอบคลุมและทันสมัย ทั้งเรื่องเครื่องมือ AI การวางกลยุทธ์การตลาด เทรนด์ความงามใหม่ๆ การสร้างประสบการณ์และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และอีกมากมาย เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
- การสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมและนอกอุตสาหกรรม ที่แตกต่างมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแชร์ประสบการณ์จริง
สิ่งเหล่านี้ คือกลไกสำคัญที่ช่วยให้คลินิกพันธมิตร และทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ท่ามกลางตลาดความงามที่มีการแข่งขันสูง และความคาดหวังของผู้บริโภคที่ไม่ได้ต้องการแค่ “ความสวยงาม” แต่ต้องการ “บริการที่มีคุณค่า” ที่ผสานทั้งความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ มาตรฐานบริการที่มีความปลอดภัย โปร่งใส และตอบโจทย์ที่เฉพาะเจาะจงของพวกเขาได้อย่างเหมาะสม