ชาวบ้านชายแดน แห่กดเงินเยียวยาผู้ประสบภัยชายแดนคึกคักหลายพื้นที่ นำไปใช้จ่ายและเตรียมอพยพ วอนรัฐบาลและทหาร พิสูจน์ปราสาทคนา ว่าเป็นของไทยจริง พร้อมให้กำลังใจทหาร
วันที่ 6 ต.ค. 68 มีรายงานว่า เงินเยียวยาผู้ประสบภัยกรณีอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ ปี 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 68 ที่อพยพ 8 วันขึ้นไปช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท ไม่เกิน 7 วัน ช่วย 2,000 บาท โดยโอนผ่านพร้อมเพย์เข้าบัญชีธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.68
โดยเฉพาะพื้นที่ จ.สุรินทร์ มีจำนวน 147,370 ครัวเรือน พบว่ามีประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและต้องอพยพดังกล่าว ที่ได้รับเงินโอนผ่านธนาคารออมสิน เดินทางไปกดเงินดังกล่าวกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่ธนาคารออมสินสาขาสังขะ รวมทั้งธนาคารกรุงไทยและธนาคาร ธกส.สาขาสังขะ เนื่องจากว่าประชาชนที่ใช้บัตรเอทีเอ็ม ของธนาคารออมสิน มีประชาชนไปยืนต่อคิวกดเงินจำนวนมาก จึงได้นำบัตรเอทีเอ็ม ไปกดยังธนาคารต่างสำนักงานดังกล่าวแทน อย่างคึกคักเช่นกัน
...
ขณะที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารออมสิน ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก็พบว่ามีประชาชนทยอยเดินทางมากดเงินตั้งแต่เช้ามืดและตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาอย่างคึกคักเช่นกัน
นางสาวเปรมกมล ยาดี ชาวบ้านกะเลงเวก ม.2 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนมากดเงินไปสำรองใช้ยามจำเป็นและเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราไม่รู้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรบ้าง และขอขอบคุณทหารที่ช่วยปกป้องและรักษาอธิปไตยและได้คืนมาตามที่แม่ทัพภาคที่ 2 คนเก่าเคยบอกไว้
ส่วนปราสาทคนาที่ชายแดน อยากให้รัฐบาล ทำให้เต็มที่และพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นของไทย และตลอดแนวชายแดนเทือกเขาพนมดงรัก อยากให้ลงพื้นที่สำรวจดูจริงๆ ว่ากัมพูชาได้รุกล้ำมาแล้วกี่จุด ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน อยากให้มีการทำกำแพงตลอดเส้นเขตแดนประเทศไทย เพราะอนาคตเราไม่รู้เลยว่ากัมพูชาจะบุกและเกิดกรณีพิพาทแบบนี้อีกหรือไม่ หัวใจสำคัญก็คือ มีรั้วรอบขอบชิด มีบ้านก็ต้องมีรั้วบ้าน มีครอบครัวก็ต้องมีความรักในครอบครัว มีประเทศก็ต้องมีรั้วของชาติ ขอบคุณทหารทุกท่าน ขอให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนจะเป็นกำลังใจให้
ด้านนายสมดี คำพันธ์ อายุ 66 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.8 บ.ด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิงฯ กล่าวว่า กดเงินเอาไปใช้จ่ายจิปะถะ และเตรียมไว้เผื่อมีอพยพ ตนคิดว่าน่าปะทะกันอีก แต่ก็ไม่อยากให้เกิดเพราะลำบาก แต่ก็อยากให้จบเร็วๆ นอนไม่หลับ ได้ยินเสียงฟ้าร้องก็คิดว่าเสียงปืน ชาวบ้านจะได้อยู่อย่างมีความสุข.
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปราสาททอง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบว่าหลายคนได้มารอกดเงินที่ตู้ ATM ตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของกลางดึกที่ผ่านมา
น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) หนึ่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ บอกว่าเห็นชาวบ้านตื่นกันมาตั้งแต่ตี 1 เพื่อเดินทางไปกดเงินจากตู้ ATM เพราะบางคนจะต้องไปทำงานตามไร่นาในตอนเช้า
นางสมจิตร ไชยวรรณ อายุ 76 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.ปราสาททอง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ครอบครัวตนเองได้รับเงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาท วันนี้เบิกเงินสดที่ธนาคาร เพื่อนำไปซื้อข้าวสารไว้หุงและซื้อสิ่งของที่จำเป็นในครอบครัว ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ให้ค่าน้ำมันรถที่พาอพยพหากเกิดมีการปะทะกันอีก เนื่องจากที่บ้านตนเองไม่มีรถยนต์
ขณะที่นายต้อน แซวประโคน อายุ 60 ปี ชาวบ้านใน อ.บ้านกรวด กล่าวว่า วันนี้ตนเองมาเบิกเงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาท แต่จะไม่นำไปใช้จ่าย จะเก็บไว้ใช้ตอนอพยพรอบที่ 2 หากมีการปะทะกันอีกเพราะไม่ไว้ใจกัมพูชา
...
ด้านนายวัลลภ มีเวที ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) สาขาอำเภอบ้านกรวด กล่าวว่า ตอนนี้ทางธนาคารมีการสำรองเงินสดสัปดาห์ละ 30 ล้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านจะไม่ให้เงินขาดอย่างแน่นอน.