Sustainability Expo เป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและเป็นส่วนหนึ่งของการอัพเดตเทรนด์ด้านความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อก้าวตามให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักที่ร่วมขับเคลื่อนการจัดงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันองค์ความรู้ พร้อมประกาศเจตนารมณ์ของ กลุ่ม ปตท. ในการสร้างโลกให้งดงามและยั่งยืน พร้อมมุ่งบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2050 ขณะเดียวกันก็ยังวางแนวทางสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและสังคมไปพร้อมกัน ซึ่งความมุ่งมั่นเหล่านั้นได้นำมาบอกเล่าผ่านนิทรรศการในงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงความตั้งใจจริงในการสร้างความยั่งยืนเพื่อโลกของเรา

ผนึกกำลังเพื่อสร้างความยั่งยืน

Sustainability Expo นับเป็นความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อแสดงพลังที่จะขับเคลื่อนโลกสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6

โดยเป็นงานที่เกิดจากความร่วมมือของ ผู้ร่วมก่อตั้งชั้นนำ (Co-Founders) ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นกำลังหลักในการร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการร่วมมือกันขององค์กรระดับประเทศเช่นนี้นับเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เพียงทำให้การขับเคลื่อนมีทิศทางเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งแรงกระเพื่อมไปถึงภาคส่วนอื่นได้มากขึ้นอีกเช่นกัน

สำหรับ กลุ่ม ปตท. พันธกิจหลักในการสร้างความยั่งยืนได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริหารจัดการผ่านแนวทาง “C3” อันได้แก่

  • C1 : Climate Resilience Business ว่าด้วยการลงทุนในพลังงานสะอาด ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ควบคู่กับการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น EV Station Pluz โดย OR, การจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานอย่างยั่งยืน (SAF) โดย GC, เคมีภัณฑ์มูลค่าสูงและผลิตภัณฑ์รักษ์โลก จาก IRPC

  • C2 : Carbon-Conscious Asset คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต เช่น ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ Operational Excellence (MissionX) และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Axis), การลดการรั่วไหลหรือการเผาก๊าซส่วนเกินทิ้ง จากโครงการของ ปตท.สผ., การใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เทคโนโลยี Small Modular Reactor (SMR) จาก GPSC

  • C3 : Coalition, Co-Creation, and Collective Efforts for All คือการประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำในอนาคต ตลอดจนสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับประเทศ ผ่านเทคโนโลยีการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน (CCS) และการใช้เชื้อเพลิง Hydrogen การเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ ผ่านการปลูกและบำรุงรักษาป่า

ทั้งนี้ในงาน Sustainability Expo 2025 ครั้งนี้ นอกจาก ปตท. จะได้ร่วมจัดแสดงผลงานความก้าวหน้าตามทิศทางและกลยุทธ์ในการมุ่งบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2050 ผ่านแนวทางการบริหารจัดการ 3C เพื่อแสดงให้ถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนเพื่อโลกแล้ว ยังมีนิทรรศการแสดงการสร้างความแข็งแรงแก่สังคมไทยในทุกมิติ ได้แก่

  • ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ผ่านโครงการชุมชนยิ้มได้ ของ ปตท.

  • โครงการไทยเด็ด ของ OR

  • ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ โครงการ YOUเทิร์น ของ GC ผลิตภัณฑ์ Wood Plastic Composite Products ของ IRPC

  • ส่งเสริมพลังงานที่เข้าถึงทุกคน ได้แก่ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้หน่วยงานสาธารณสุขและสถานศึกษาของภาครัฐ ของ TOP

  • โครงการ Light for a Better Life ของ GPSC

  • นอกจากนี้ ยังมีงานฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและเสริมสร้างรายได้ให้ชุมชนชายฝั่ง ผ่านโครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจ (Ocean for Life) ของ ปตท.สผ.

รวมถึงการมีแคมเปญต่างๆ ที่นำเสนออย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยมีมาสคอตคุ้นเคยอย่าง ก๊อดจิ (GODJI) ทูตพลังงาน และ เนโซ่ (NÉZO) ทูตความยั่งยืน เป็นตัวแทนการขับเคลื่อนเรื่องการอนุรักษ์และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกในแบบน่ารักและเข้าถึงง่าย

Sustainability Expo 2025 (SX2025) : พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก

สำหรับ Sustainability Expo 2025 (SX2025) ปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) ที่ได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะทรง “สืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาประชาราษฎรตลอดไป” และหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการจัดการร่วมกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ซึ่งปีนี้ยังมุ่งเน้นไปที่เรื่อง “การปรับตัว และร่วมมือ” (Adaptation & Collaboration) โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมพลังทุกภาคส่วนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างการตระหนักรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และขยายแพลตฟอร์มความร่วมมือไปยังเครือข่ายนานาชาติ ซึ่งมีองค์กรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่ง นอกจากนี้ในงานยังมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนกว่า 750 ท่านจากทั่วโลกเข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้อีกด้วย

โดยในพิธีเปิดงาน Sustainability Expo 2025 ที่ผ่านมา ได้มีการมอบรางวัล SX SHAPER AWARD ให้กับ Enactus องค์กรระดับโลกที่ไม่แสวงหาผลกำไร ผู้สร้างเครือข่ายนักศึกษาและผู้นำธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด เพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าผ่านการลงมือทำจริง ซึ่งการมอบรางวัลนี้ ไม่เพียงเพื่อเชิดชู Enactus Global ในฐานะผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณให้สังคมตระหนักว่า ความยั่งยืนเป็นเรื่องของสังคมและสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

ทั้งนี้ผู้สนใจ Sustainability Expo 2025 สามารถร่วมงานได้ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่ 26 กันยายน ถึง 5 ตุลาคม 2568 นี้ โดยภายในงานมีโซนจัดแสดงงาน 10 โซนหลัก ได้แก่ SEP INSPIRATION กับ Immersive Experience จาก Nat Geo, BETTER ME สุขภาพ-การเงินอนาคต, BETTER LIVING อยู่อาศัยรับมือภัยพิบัติพร้อม 4D Theatre, BETTER COMMUNITY พลังจิตอาสา, BETTER WORLD ศิลปะสร้างสมดุล, SX FOOD FESTIVAL อาหารรักษ์โลกจากเชฟดังและร้านในตำนาน, SX KIDS ZONE กิจกรรมเล่น-ทดลอง-เรียนรู้, SX MARKETPLACE กว่า 217 ร้านค้า, SX REPARTMENTSTORE แบ่งปันของใช้ดี ๆ และ B2B FORUM เวทีธุรกิจสู่ความยั่งยืน