ปิดล้อมจับแรงงานต่างด้าว 51 ชีวิต ชาวกัมพูชา–เมียนมา ซ่อนตัวกลางไร่อ้อย พื้นที่แนวชายแดน จ.สระแก้ว ลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ หวังหางานทำ

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 และกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ร้อย ฉก.ตชด.4) ได้สนธิกำลังเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่แนวชายแดนด้านอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังได้รับรายงานจากสายข่าวในพื้นที่ว่าจะมีกลุ่มแรงงานต่างด้าวลักลอบข้ามแดนเข้ามาเป็นจำนวนมาก

ระหว่างการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนเทอร์มอลติดกล้องถ่ายภาพความร้อน บินลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทางตามแนวป่าและพื้นที่การเกษตร จนกระทั่งตรวจพบกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในไร่อ้อยท้ายหมู่บ้านอ่างศิลา ตำบลโนนหมากมุ่น จึงกระจายกำลังเข้าปิดล้อม และควบคุมพื้นที่อย่างรัดกุม

ผลการตรวจสอบสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้ทั้งหมด 51 คน แบ่งเป็นชาวกัมพูชา 44 คน (ชาย 26 คน หญิง 18 คน) และชาวเมียนมา 7 คน (ชาย 4 คน หญิง 3 คน) โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารการเดินทางหรือ หลักฐานการอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด

...

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ถูกจับกุมให้การตรงกันว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ผ่านช่องทางธรรมชาติที่ไร้การควบคุม โดยมีนายหน้าและผู้นำพาชาวกัมพูชาพาเดินเท้าเข้ามาในฝั่งไทย จุดหมายปลายทางคือพื้นที่ชั้นในของประเทศเพื่อหางานทำ โดยเฉพาะในภาคก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีการลักลอบรับแรงงานผิดกฎหมายอยู่เป็นประจำ

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา "เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย" พร้อมทั้งชี้แจงสิทธิขั้นพื้นฐาน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะมีการผลักดันกลับประเทศต้นทางภายหลังจากกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้วถือเป็นหนึ่งในเส้นทางสำคัญที่แรงงานต่างด้าวจากกัมพูชาและเมียนมา ใช้ในการลักลอบเข้าเมือง เนื่องจากมีแนวชายแดนยาวกว่า 165 กิโลเมตร และมีช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงที่ภาคอุตสาหกรรม และการเกษตรของไทยยังคงมีความต้องการแรงงานสูง

เจ้าหน้าที่เผยว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นคดีใหญ่และเป็นการตัดตอนเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวได้อีกครั้ง ซึ่งจะมีการขยายผลเพื่อติดตามหาตัวผู้นำพาและนายหน้า ที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบข้ามแดนต่อไป