"เจ้าหน้าที่ป่าไม้-อส." ปฏิบัติการทวงคืนป่า ปักป้ายประกาศ 3 ภาษา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว-หนองจาน ขีดเส้นตาย 15 วัน ขับไล่ผู้บุกรุกชายแดนสระแก้ว



วันที่ 28 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.2 (หนองแวง) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) นำกำลังลงพื้นที่ 2 หมู่บ้านแนวชายแดน คือ บ้านหนองหญ้าแก้ว หมู่ 9 ต.โคกสูง และ บ้านหนองจาน หมู่ 3 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อปฏิบัติการติดตั้งป้ายประกาศ "ตรวจยึดและขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ป่า" ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484

ปฏิบัติการครั้งนี้ถูกขนานนามว่า "ทวงคืนป่า ประเทศไทย" โดยมีการนำป้ายประกาศจำนวน 6 ป้าย มาติดตั้ง (หมู่บ้านละ 3 ป้าย) เนื้อหาในประกาศทำเป็น 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษากัมพูชา เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ข้อกฎหมายและข้อบังคับได้อย่างชัดเจน

เนื้อหาประกาศชัดเจน "พื้นที่นี้คือป่า อยู่ในราชอาณาจักรไทย" ข้อความในป้ายประกาศยืนยันว่า พื้นที่หนองหญ้าแก้วและหนองจานอยู่ในราชอาณาจักรไทยและถือเป็นพื้นที่ป่า ตามความใน มาตรา 4 (1) พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูงแล้ว

...

กรณีบ้านหนองหญ้าแก้ว แจ้งความเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 เวลา 12.44 น. กรณีบ้านหนองจาน แจ้งความเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 เวลา 15.17 น. ผู้ที่บุกรุก ครอบครอง หรือก่อสร้างในพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดีตาม มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมทั้งสั่งให้นำทรัพย์สินออกจากพื้นที่ภายใน 15 วันนับแต่วันประกาศ หากฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

โดยเส้นตายแตกต่างกัน หนองหญ้าแก้วใกล้ครบกำหนดก่อน เนื่องจากบ้านหนองหญ้าแก้ว วันประกาศขับไล่มีผลตั้งแต่ 18 กันยายน 2568 ซึ่งจะครบกำหนดเส้นตายเร็วกว่าพื้นที่อื่น ส่วนบ้านหนองจาน วันประกาศขับไล่เริ่ม 25 กันยายน 2568 ทำให้ยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อย

ทั้งนี้ พบบ้านเรือนต่างด้าวกว่า 40 หลัง ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนโคกสูง-สระแก้ว เนื่องจากในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา มีรายงานการรุกล้ำพื้นที่ป่าจนกลายเป็นชุมชนขนาดเล็ก โดยเฉพาะบ้านหนองหญ้าแก้ว ที่ภาพถ่ายทางอากาศพบ บ้านเรือนชาวกัมพูชาปลูกสร้างอยู่กว่า 40 หลังคาเรือน

เจ้าหน้าที่ไทยจึงถือว่าการปฏิบัติการครั้งนี้เป็น การยืนยันอธิปไตยเหนือพื้นที่ป่า และเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการขยายตัวของการบุกรุกและรักษาทรัพยากรธรรมชาติของชาติ จับตาความเคลื่อนไหวก่อนครบเส้นตาย ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าผู้บุกรุกจะดำเนินการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ตามที่กำหนด หรือจะต้องมีการใช้มาตรการบังคับตามกฎหมาย หากถึงเส้นตายแล้วยังไม่ปฏิบัติตาม ปฏิบัติการ "ทวงคืนป่า ประเทศไทย" จึงถูกมองว่าเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะสะท้อนถึงความเด็ดขาดของไทยในการจัดการปัญหาการบุกรุกชายแดน และเป็นการประกาศจุดยืนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของไทยโดยชอบธรรม.

...


(เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่นี่)