บรรยากาศ "บ้านหนองจาน" เงียบผิดปกติ ชาวกัมพูชาเก็บตัวไม่เคลื่อนไหว หลังนำคณะ IOT ลงพื้นที่ 

ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมประชาสัมพันธ์กองทัพบก นำโดย พ.อ.สิทธิชัย ชัยวงศ์ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการและสารสนเทศ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ “บ้านหนองหญ้าแก้ว-บ้านหนองจาน” อีกครั้ง

จุดแรกที่มีการลงพื้นที่คือบ้านหนองจาน ซึ่งทางการไทยพยายามสื่อสารว่าเป็นอธิปไตยของไทยมาโดยตลอด เพราะก่อนหน้านี้ถูกชาวกัมพูชาลุกล้ำเข้ามานานกว่า 40 ปี ก่อนจะมีการผลักดันออกไป โดยจุดนี้จะมีสแลนดำ และลวดหนามหีบเพลงกั้นเอาไว้อย่างชัดเจน / ความเคลื่อนไหวมวลชนเขมรจุดนี้พบว่าเงียบผิดปกติ มีเพียงทหารตรึงกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ฝั่งไทย

โดยในจังหวะที่ลงพื้นที่เป็นห้วงเวลาเดียวกันกับฝั่งกัมพูชา ได้พาคณะ IOT ลงพื้นที่ได้ไม่นาน ทันทีที่ทีมกองทัพบก พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ปรากฏว่าทหารฝั่งกัมพูชา ที่ตรึงกำลังอยู่เห็นสื่อมวลชนไทย ก็วิ่งเข้ามาถ่ายภาพ เตรียมรายงานผู้นำฝั่งตัวเองทันที

จากนั้น พ.อ.สิทธิชัย อธิบายว่า จุดนี้เป็นอธิปไตยของไทย ช่วงที่เราลงพื้นที่ จะเห็นได้ว่ามวลชนชาวกัมพูชาเงียบผิดปกติ เนื่องจากคาดว่าเป็นเวลาใกล้เคียงกับคณะ IOT ลงพื้นที่ จากการรายงานทหารในพื้นที่ทราบว่ากัมพูชาพาคณะ IOT เข้ามาบ่อย พอจังหวะที่มีคณะ IOT ลงพื้นที่มวลชนชาวกัมพูชาจะเงียบ แตกต่างจากปกติที่จะมีการทำการแสดงอะไรบางอย่าง อาจจะเรียกว่า “เขมรการละครก็ได้”

นอกจากนี้จุดดังกล่าว ยังพบว่า มีบ้านหลายหลังที่กำนันลี ที่มีอดีตภรรยาเป็นคนไทย กว้านซื้อ-ครอบครองและอยู่ในอธิปไตยไทย ซึ่งจากข้อมูลหลายส่วนก็มีการอ้างว่า นี่แหละคือแกนนำม็อบเขมร

หลังจากนั้นก็ได้พาสื่อลงพื้นที่ไปยังจุดที่สองคือ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” ตรงข้ามคือบ้านเปรยจัน ของกัมพูชา ซึ่งโซนนี้ฝั่งไทยพยายามสื่อสารว่าเขตแดนที่ 42-43 เป็นอธิปไตยของไทย ที่เขมรรุกล้ำมากว่า 40 ปี และจุดนี้เป็นจุดที่จะเห็นว่าทหารกัมพูชามีการใช้กลวิธีเอามวลชนเป็นโล่มนุษย์ มายั่วยุเพื่อให้เกิดความรุนแรงหวังสร้างภาพกับนานาชาติ

สำหรับจุดนี้ทีมข่าวได้ภาพมุมสูงพบความเคลื่อนไหวฝั่งกัมพูชา เห็นได้ชัดเจนเลยว่าไม่มีมวลชนเข้ามารวมตัวกันแต่อย่างใด บรรยากาศเงียบมากไม่มีมวลชนมาเดินไปมาที่หน้าแนวรั้วลวดหนามเลย

จากนั้นคณะก็พาสื่อเข้าไปจุดดังกล่าว เสียงวอร์ของเจ้าหน้าที่ก็ดังขึ้นว่า มีชาวกัมพูชาหลายสิบคนได้เดินมารวมตัวกันที่หน้าแนวรั้วลวดหนามแล้ว

พอชาวกัมพูชาเริ่มเห็นว่ามีสื่อเข้าไปก็มีการรวมตัวของมวลชนทันที ราวกับว่ามีการนัดแนะกันมา พอทหารไทยดึงสแลนสีดำลง เพื่อให้สื่อมวลชนดู ปรากฏว่าประชาชนชาวกัมพูชา ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ได้เรียกกันมายืนสังเกตการณ์การลงพื้นที่ของฝั่งไทย บางคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย ส่วนใหญ่พบว่าเป็นเด็ก, ผู้หญิง, คนชรา และพระสงฆ์

...



หลังจากนั้นไม่นาน พบว่า มีแกนนำม็อบกัมพูชา ได้เดินมาประชิด สังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวฝั่งไทย บางช่วงมีการยั่วยุ ด้วยการกวักมือเรียก ท้าทายให้ฝั่งไทยเข้าไปด้วย บางช่วงมีการวอร์เรียกมวลชนมาเพิ่มด้วย แต่ให้สแตนด์บายอยู่หลังสแลนดำเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งพระสงฆ์ที่นั่งมาเต็มหลังกระบะด้วย คาดว่าเนื่องจากเป็นวันที่ คณะ IOT ลงพื้นที่อีกโซนคือบ้านหนองจาน


นอกจากนี้ยังพบว่า ระหว่างที่ทีมประชาสัมพันธ์กองทัพบก และสื่อไทยลงพื้นที่ มีเด็กชาวกัมพูชาก็มาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชูนิ้วกลางให้คณะฝั่งไทยด้วย และยังพบว่ามีการนำป้ายข้อความ เดิมที่ฝั่งกัมพูชาเคยพยายามสื่อสารมาตลอดว่า “เราทุกคนต่อต้านฝ่ายไทยที่รุกรานดินแดนราชอาณาจักรกัมพูชา”


อย่างไรก็ตามก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่กัมพูชา เอาประชาชนที่เป็น ผู้หญิง คนแก่ พระ และเด็ก มาประชิดแนวรั้วลวดหนามแบบนี้จะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศในการละเมิดหลักการสากลว่าด้วยการใช้พลเรือน และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือไม่ ซึ่งตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่เองก็อยากให้องค์กรที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีภาพมุมสูงที่ของตำรวจนครบาล ฝั่งตรงข้ามกับบ้านหนองหญ้าแก้ว เห็นภาพพระสงฆ์ และมวลชนชาวกัมพูชา มาขนของที่ท้ายรถกระบะ ลักษณะเป็นการเตรียมเสบียงให้สำหรับมวลชนที่มาปักหลักอยู่บริเวณจุดดังกล่าว

...